รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วานนี้ (12 ก.พ.) สภาพภายในตัวเมือง ตั้งแต่ช่วงเช้าถูกปกคลุมหนาทึบด้วยหมอกควันจนทำให้ไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพจากระยะไกลได้ตามปกติ และตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ท้องฟ้าสดใส สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษในตำบลช้างเผือก ,ตำบลศรีภูมิ และตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รายงานผ่าแอปพลิเคชัน AIR4THAI พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 51 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร,47 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 77 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ โดยมาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ลำปางเร่งแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนป้องกันฝุ่น
ส่วนที่จังหวัดลำปาง พล.ต.สุรคล ท้วมเสม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ลำปางได้มอบหมายให้ รพ.ค่ายสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ พยาบาลของโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปางร่วมกันแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับนักเรียนนักศึกษาและประชาชนที่บริเวณด้านหน้าของวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดลำปาง โดยหลังจากแจกจ่ายหน้ากากอนามัยแล้ว ทางทีมพยาบาลโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปางได้มีการแนะนำการใช้หน้ากากอนามัยให้อย่างถูกวิธี เพื่อเป็นแนวทางการป้องกันและรักษาสุขภาพจากปัญหาหมอกควันไฟป่าหมอกควันไฟและไฟป่า
ซึ่งขณะนี้จังหวัดลำปางนั้นอยู่ในช่วงวิกฤตหมอกควันไฟป่า ตามท้องถนนและแหล่งชุมชนทั่วไปนั้นมีหมอกควันไฟปกคลุมไปทั่วบริเวณ ล่าสุดนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้แจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัด โรงพยาบาล ทั้ง 13 อำเภอ และดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ แจกจ่ายผ้าปิดจมูก/หน้ากากอนามัย พร้อมดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุและเป้าหมายอ่อนแอเป็นกรณีพิเศษโดยเร่งด่วน และให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สถาบันการศึกษาทุกแห่ง แจ้งเตือนให้นักเรียนนักศึกษาในสังกัดรับทราบข้อมูล พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ และงดกิจกรรมกลางแจ้ง และเตือนประชาชนที่มีความจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง และงดเว้นทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลานานๆ
ส่วนผู้ที่อยู่ในบ้านขอให้ปิดหน้าต่างอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าไปในบ้าน และขออยากให้ประชาชนนั้นร่วมกันรดน้ำต้นไม้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและเป็นการลดช่วยฝุ่นละอองในอากาศด้วย
สถานการณ์หมอกควันสูง เจ้าหน้าที่ขนส่งออกตรวจสอบควันรถโดยสารประจำทาง
จังหวัดแพร่บรรยากาศทั่วไปพบว่า มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศเกินมาตรฐานมาหลายวัน โดยเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2562 จุดตรวจวัดที่ ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ค่า PM 2.5 วัดได้ 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ค่า PM 10 อยู่ที่ 131 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ที่ 215 เกณฑ์สีคุณภาพมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งถึงว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศที่มีสภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่นไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง
ด้านกลุ่มเสี่ยงควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์ ส่วนเด็กนักเรียน ผู้ปกครองเริ่มให้บุตรหลานสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองกันมากขึ้น
ด้านขนส่งจังหวัดโดยการนำของนางสาวผุสดี ผลพฤกษ์ไพร ขนส่งจังหวัดแพร่ เผยว่า เนื่องจากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงทาง ทางขนส่งฯ เองได้รับมอบหมายจากกรมขนส่ง ให้ออกมาดำเนินการตรวจค่าควันของรถโดยสาร ที่หากมีค่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานคือ 45 ไมโครกรัม ก็ให้ดำเนินตามกฎหมาย คือให้งดรับส่งและทำการเปรียบเทียบปรับและให้ดำเนินการแก้ไขจึงจะสามารถกลับมาให้บริการได้ สำหรับจังหวัดแพร่เองได้ดำเนินการมาตลอดช่วงระยะเวลาที่ตรวจสอบยังไม่พบรถที่มีควันดำเกินมาตรฐานกว่าที่กฎหมายกำหนด
ชัยภูมิหมอกควันใกล้วิกฤต มีคนเผาป่าวันละหลายครั้ง
ด้านสภาพท้องฟ้าทั่วไปในจังหวัดชัยภูมิ เริ่มปกคลุมไปด้วยหมอกควัน หลังจากตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ ตามไหล่เขา เชิงเขา หรือเส้นทางต่างตามถนนสายต่างๆ มีผู้ลักลอบเผาป่า เกิดไฟไหม้ป่ากระจายอยู่ทั่วไป
ช่วงบ่ายของวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา พบมีผู้ลักลอบเผาป่าที่บริเวณริมถนนสาย 201 ชัยภูมิ ไปอำเภอจัตุรัส จึงนำรถน้ำของเทศบาลตำบลหนองนาแซงไปดับไฟ และช่วงหลัก กม.ที่ 117-118 พบไฟไหม้หญ้ากำลังลุกลามตามข้างถนนเป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร จนเกิดหมอกควันกระจายไปทั่ว จนเกือบมองไม่เห็นถนน ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเปิดไฟหน้า เจ้าหน้าที่รถน้ำระดมช่วยกันสกัดเพลิงด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมกรรโชกแรง และทำให้ไฟลุกลามเข้าไปในป่าด้านใน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ คาดว่าสาเหตุเกิดจากคนมือบอนจุดไฟเผาหญ้าแล้วคุมไม่อยู่ จนเกิดลุกลามกระจายเป็นบริเวณกว้าง
ทั้งนี้ เหตุไฟไหม้หญ้าหรือไหม้ป่าแต่ละครั้ง จะทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงขึ้น และอาจเกินมาตรฐานกระทบต่อสุขภาพของคนชัยภูมิได้ แม้ปัจจุบันค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ชัยภูมิยังอยู่ในเกณฑ์ปกติก็ตาม
ขอนแก่นฝุ่นลดลงเข้าสู่สถานการณ์ปลอดภัย ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์มลภาวะในอากาศในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พบว่าจากการตรวจสอบสภาพอากาศขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ระดับปานหลัง โดยเช้าวันนี้ (13 ก.พ.) วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI อยู่ที่ 111 ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5อยู่ที่ 55 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิด 10 ไมครอน หรือ PM10 อยู่ที่ 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงเย็นวานนี้ถึงช่วงเวลา 06.00 น. ค่า AQI และ PM 2.5 อยู่ในระดับปานกลาง (ระดับสีเหลือง) โดยได้เพิ่มสูงขึ้นมาแตะที่ระดับเฝ้าระวัง (ระดับสีส้ม) ในช่วงหลังเวลา 06.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางส่งบุตรหลานและทำงานตามที่ต่างๆ ทำให้พบว่าค่าฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นในช่วงนี้เป็นประจำของแต่ละวัน และจะลดลงในช่วงสาย โดยเฉลี่ยสถานการณ์ฝุ่นละอองของจังหวัดขอนแก่นอยู่ในระดับปานกลางคือระดับสีเหลือง และจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดปฏิบัติการณ์ฝนหลวงในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียง ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่เร่งช่วงชิงสภาพอากาศเปิดปฏิบัติการฝนหลวงทันทีที่สภาพอากาศมีความพร้อม โดยยังคงเน้นหนักใน 2 ภารกิจหลักสำคัญ ทั้งการลดปัญหาค่าฝุ่นละอองในอากาศ และการดับไฟป่า ในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ
ขณะที่มาตรการปราบฝุ่นของจังหวัดขอนแก่น ยังคงดำเนินการตามแผนเดิม โดยการฉีดพ่นน้ำดูดซับฝุ่นละอองตามสถานที่ต่างๆ ในจุดที่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศ พร้อมทั้งยังคุมเข้มในส่วนของมาตรการป้องกันและดำเนินคดีตามกฎหมายสำหรับผู้ที่ลักลอบเผาหญ้า ขยะ รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย และตอซังข้าว โดยขณะนี้ยังคงพบการจุดไฟเผาในพื้นที่นอกเขตอำเภอเมืองขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเย็นของแต่ละวัน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังคงหาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่อยู่ เนื่องจากยังไม่มั่นใจเพราะยังมีการพบเห็นการจุดไฟเผาตามที่ต่างๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง