สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แสดงทัศนะกรณีการเเก้ไขรัฐธรรมนูญและหน้าที่ของรัฐสภา โดยระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า 

“Road Maps ประชาชน กรณีรัฐสภาตีตกวาระสามแก้ไขและธรรมนูญ”

มีแนวโน้มอย่างยิ่งว่าพรรคพลังประชารัฐและบรรดาสมาชิกวุฒิสภาอาจใช้วิธีการลงมติไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียงเพื่อให้เงื่อนไขการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 (6) ที่กำหนดว่าจะต้องมีสมาชิกรัฐสภาเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งและในจำนวนดังกล่าวต้องมีสมาชิกวุฒิสภาไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามหรือ 84 คนร่วมเห็นชอบด้วยนั้นประสบความสำเร็จ

สมชัย ระบุว่า ผลดังกล่าว จะทำให้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระที่สามตกไป ดังนั้น สิ่งที่ภาคประชาชนสมควรดำเนินการต่อมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ คือ

1.ผลักดัน กลไกทั้งภายในและภายนอกสภารวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้มีการออกเสียงลงประชามติภายใน 90 วันในคำถามว่า

"ประชาชนเห็นชอบที่จะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. จำนวน 200 คน ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ทำหน้าที่ยกร่างหรือไม่"

2.หากประชามติผ่านให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ภายใน 90 วันหลังจากนั้น ส.ส.ร. ไป จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ให้เสร็จใน 240 วัน

3.เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ร่างเสร็จ ให้มีการทำประชามติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับ รัฐธรรมนูญใหม่ภายใน 90 วัน กระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาทั้งสิ้น 510 วันหรือ 17 เดือนนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้มีการออกเสียงประชามติซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้เคียงหรือไม่แตกต่างจากกรณีรัฐสภาลงมติผ่านวาระสาม แต่อย่างใด

สมชัย ทิ้งท้ายว่า จึงเรียนมาเพื่อเสนอเป็นแนวทางแก่ผู้รักประชาธิปไตยและปรารถนาจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ ในกรณีที่พรรคพลังประชารัฐและสมาชิกวุฒิสภาจะทำตัวเป็นผู้ขัดขวางการเปลี่ยนแปลงโดยอ้างเหตุจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ