คณะรัฐประหารเมียนมาออกคำสั่งยกเลิกมาตรา 5,7 และ 8 ของกฏหมายพิทักษ์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของพลเรือน เป็นการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งจะส่งผลให้กองทัพโดยเฉพาะหน่วยงานความมั่นคง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนและต่อต้านคำสั่งรัฐโดยไม่ต้องใช้หมายจับ, สามารถตรวจค้นบ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพยานของหมู่บ้าน, ติดตามและจับกุมบุคคลผู้มีพฤติกรรมต่อต้านรัฐ รวมถึงสามารถควบคุมตัวได้เกิน 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้หมายศาล 

หลังกองทัพมีคำสั่งดังกล่าว ส่งผลให้กระแสต้านรัฐประหารเซึ่งยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ได้ทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา มีภาพและคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจจากการระงับใช้กฏหมาย 3 มาตราดังกล่าว เข้าจับกุมผู้เห็นต่างเวลากลางคืน หลายพื้นที่ทั้งในเมืองย่างกุ้งและเมืองอื่นๆ มีการเขียนป้ายประท้วงว่า "หยุดลักพาตัวเวลากลางคืน" "กลางคืนของเราไม่ปลอดภัย" และ "กองทัพลักพาตัวคนช่วงกลางคืน" มีรายงานเหตุความไม่สงบในพื้นที่ของนครย่างกุ้ง ประชาชนที่โกรธแค้นในหลายชุมชนของเมืองไม่หวั่นเกรงคำประกาศเคอร์ฟิว ออกมารวมตัวช่วงกลางคืนเพื่อแสดงความไม่พอใจ พร้อมจัดเวรยามสอดส่องความปลอดภัยในชุมชนกันเอง 

"เราไม่รู้ว่าใครจะถูกจับตัวไป แต่เมื่อเราได้ยินเสียง เราจะออกไปช่วยเพื่อนบ้านเรา" ถิน ซาร์ ชาวบ้านทางตอนเหนือของย่างกุ้งกล่าว

นอกจากนั้น มีรายงานว่าฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจกำลัังเร่งหาตัวกลุ่มแกนนำเคลื่อนไหวต้านรัฐประหาร 7 รายที่ส่วนใหญ่เป็นอดีตแนวร่วมเคลื่อนไหว "8888" หรือเหตุการก่อการกำเริบ 8888 ในสมัยรัฐบาลทหารนายพลเน วิน

แม้ยังไม่มีรายงานตัวเลขการบุกจับกุมช่วงกลางคืนอย่างชัดเจน แต่จากข้อมูลของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ระบุว่ามีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 320 คนตั้งแต่การเคลื่อนไหวต้านรัฐประหารในสัปดาห์ที่แล้ว

จับแพทย์แกนนำอารยะขัดขืน

เมื่อ 11 ก.พ. มีรายงานว่าตำรวจในเขตมะเกวได้เข้าจับกุมผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองอองลาน ข้อหาสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐพยาบาลออกมาแสดงอารยะขัดยืน แต่ระหว่างการเข้าจับกุมชาวบ้านในพื้นที่ช่วงปกป้องผู้อำนวยการโรงพยาบาลรายนี้จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมได้ 

เช่นเดียวกัน ตำรวจในเมืองมัณฑะเลย์ได้เข้านจับกุม ขิ่น หม่อง วิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์มัณฑะเลย์ ถึงบ้านพักในข้อหาสนับสนุนอารยะขัดขืนโดยไม่มีหมายจับ แต่สุดท้ายชาวบ้านใกล้เคียงออกมารวมตัวเคาะหม้อเคาะกระทะไล่จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ยอมปล่อยตัวแพทย์คนดังกล่าวไป 

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของแพทย์รายหนึ่งจากโรงพยาบาลในเมืองอิงกาปูแถบภูมิภาคอิระวดี ซึ่งถูกจับกุมไปเมื่อสองวันก่อนจากการเข้าร่วมเคลื่อนไหวแสดงอารยะขัดขืน เผยว่ายังไม่สามารถติดต่อได้

พญ.พยูแลทู ภรรยาของนพ.เพียะเพียวเนียง เผยว่าขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้เป็นสามีว่า ถูกจับกุมไปยังที่ใด โดยตำรวจอ้างการจับกุมว่าฝ่าฝืนกฎหมายจัดการภัยพิบัติช่วงสถานการณ์โควิด ละทิ้งหน้าที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง

เช่นเดียวกับนพ.ซอว์ ไวย์ โซ รองประธานหน่วยควบคุมโควิดของนครย่างกุ้ง และอธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์ย่างกุ้ง ถูกตำรวจคุมตัวสอบสวนเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จากการนำทีมแพทย์ในย่างกุ้งเคลื่อนไหวต้านรัฐประหาร

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เหตุรัฐประหาร 1 ก.พ. เจ้าหน้าที่บุคลากรการแพทย์เมียนมานับเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการทำรัฐประหาร ส่งผลให้บรรดาเจ้าหน้าที่ในหลายหน่วยงานจากทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมออกมาแสดงอารยะขัดขืนขับไล่เผด็จการทหาร

ที่มา:myanmar-now , Xinhua