ไม่พบผลการค้นหา
นิกเกอิเอเชี่ยนรีวิววิเคราะห์กองทัพไทยกำลังเปลี่ยนแปลง ระบุ 'ขั้วอำนาจ' ย้ายไปอยู่ในมือทหารสาย 'วงศ์เทวัญ' นำโดย 'พล.อ. อภิรัชต์' ผบ.ทบ. อ้างอิงความเห็นอดีตทูต ทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง

มาร์วัน มาคาน มาร์คา ผู้สื่อข่าวในภูมิภาคเอเชียของนิกเกอิเอเชี่ยนรีวิว เผยแพร่บทความชื่อ All the king's men: Thai military power shifts away from Prayuth เมื่อ 2 ก.ค. 2562 โดยเสนอความคิดเห็นเชิงวิเคราะห์ว่ามีความเปลี่ยนแปลงในกองทัพไทย มีการย้ายขั้วอำนาจไปจากเครือข่ายพวกพ้องของ 'พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา' นายกรัฐมนตรี พร้อมแจกแจงสัญญาณบ่งชี้ความเปลี่ยนแปลงในแง่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

บทความระบุว่า สถานการณ์ทางการเมืองไทยเพิ่งจะเปลี่ยนผ่านจากการปกครองโดยคณะรัฐประหารไปสู่ความพยายามจัดตั้งรัฐบาลกึ่งพลเรือน และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ขั้วอำนาจในกองทัพที่เคยสนับสนุนเขาไม่ได้อยู่ในสถานะเดิม เพราะบทบาทในการตัดสินใจโยกย้ายทหาร หรือการกำหนดนโยบายต่างๆ ในกองทัพซึ่งเคยอยู่ในมือทหารสาย 'บูรพาพยัคฆ์' กำลังย้ายไปอยู่กับทหารสาย 'วงศ์เทวัญ' มากขึ้น

บทความได้อ้างถึง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (ผบ.ฉ.รอ.904 ) หนึ่งในทหารสาย 'วงศ์เทวัญ' ผู้มีความเชื่อมโยงกับกองพลทหารราบที่ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงนำไปสู่แผนย้ายหน่วยทหารออกนอกกรุงเทพฯ ซึ่งดำเนินการไปบ้างแล้วในระยะแรกของช่วงเวลา 15 เดือนที่ พล.อ.อภิรัชต์ ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ส่วนผู้ที่ถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป คาดว่าจะหนีไม่พ้น พล.ท. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 คนปัจจุบัน

สัญญาณการเปลี่ยนแปลงอีกประการหนึ่งในกองทัพ คือ การอนุมัติคำสั่งซื้อรถเกราะล้อยาง M1126 STRYKER จากกองทัพสหรัฐอเมริกา เพื่อนำไปใช้ในกองพลทหารราบที่ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งแหล่งข่าวที่เป็นนายทหารระดับสูงในกองทัพไทย แต่ไม่ประสงค์จะออกนาม กล่าวสนับสนุนว่าเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ เพราะในเชิงยุทธศาสตร์แล้ว ฉะเชิงเทรามีชัยภูมิที่ดี ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิและท่าเรือแหลมฉบัง ทั้งยังใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่นาน

อภิรัชต์
  • พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นทั้ง ผบ.ทบ.และ หนึ่งใน 250 ส.ว.จากการแต่งตั้ง
อภิรัชต์ คงสมพงษ์

นิกเกอิเอเชี่ยนรีวิวยังได้สัมภาษณ์ 'สุณัย ผาสุข' ที่ปรึกษาขององค์การระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน 'ฮิวแมนไรท์วอทช์' ซึ่งมองว่าการย้ายหน่วยทหารออกนอกกรุงเทพฯ คือการสร้างแนวอาณาเขตใหม่ของกองทัพ โดยมีเครือข่ายทหารสายวงศ์เทวัญเป็นศูนย์กลาง

อาจกล่าวได้ว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นความพยายามที่จะลดบทบาททหารสายบูรพาพยัคฆ์ ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในกองทัพและแวดวงการเมืองไทยตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา โดยทหารบูรพาพยัคฆ์คนสำคัญในปัจจุบัน คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีความใกล้ชิดและได้รับความไว้วางใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ อย่างมาก

ผู้ให้สัมภาษณ์นิกเกอิเอเชี่ยนรีวิวรายอื่นๆ ได้แก่ เจมส์ ไวส์ อดีตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการเมืองและหลักนิติรัฐไทย Thailand: History, Politics and the Rule of Law ระบุเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากองทัพไทยมีอำนาจในการบริหารจัดการกันเองภายใน โดยที่ฝ่ายบริหารประเทศ ฝ่ายนิติบัญญัติ และกระบวนการยุติธรรม ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้

ส่วนความเห็นของ 'พอล แชมเบอร์ส' นักวิชาการชาวต่างชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของมหาวิทยาลัยนเรศวร รวมถึง 'เกรกอรี วินเซนต์ เรย์มอนด์' นักวิชาการชาวออสเตรเลีย ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับอำนาจกองทัพไทย Thai Military Power: A Culture of Strategic Accommodation ต่างเห็นตรงกันว่า ปัจจัยที่ว่ามาทั้งหมด อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นในแวดวงทหารไทย

ขณะที่ 'กษิต ภิรมย์' อดีต รมว.ต่างประเทศของไทย ระบุว่าความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างอำนาจในกองทัพไทยขณะนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ทั้งยังอ้างว่าเกิดจากความประสงค์ที่จะยุติความแตกแยกและการแบ่งฝักฝ่ายภายในกองทัพ ซึ่งจะนำไปสู่ 'ยุคใหม่' ที่ทหารจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการรัฐประหารอีก

อ่านเพิ่มเติม: