ไม่พบผลการค้นหา
หอสมุดสภาคองเกรสประกาศหยุดบันทึกทุกๆข้อความบนทวิตเตอร์เป็นจดหมายเหตุแห่งชาติ เพราะข้อมูลมีมหาศาลมากเกินไป และการใช้งานทวิตเตอร์ของประชาชนเริ่มเปลี่ยนไป

นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา หอสมุดของรัฐสภาสหรัฐฯ ที่มีชื่อย่อว่า LOC ในกรุงวอชิงตัน ได้เก็บบันทึกทุกๆข้อความที่มีการทวีตผ่านทวิตเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นของประธานาธิบดี นักการเมือง หรือประชาชนทั่วไป แต่ตอนนี้ หอสมุดคองเกรส ออกมาประกาศแล้วว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคาคม ปี 2018 ที่กำลังจะมาถึง จะไม่บันทึกข้อมูลในทวิตเตอร์ทุกๆข้อความอีกต่อไป โดยจะเลือกบันทึกแค่บางทวีตตามหลักการคัดเลือกที่วางเอาไว้อย่างเคร่งครัดเท่านั้น

สาเหตุที่ต้องมีการบันทึกข้อมูลที่ผู้คนโพสต์ไว้บนทวีตเตอร์ ก็คล้ายๆกับการเก็บข้อมูลเพื่อใช้เป็นจดหมายเหตุแห่งชาติ นั่นก็คือเพื่อเก็บไว้เป็นองค์ความรู้และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ สำหรับสภาคองเกรสหรือหน่วยงานอื่นๆไว้ใช้อ้างอิง แต่หลังจากที่การใช้งานทวิตเตอร์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง ทำให้หอสมุดคองเกรสไม่สามารถที่จะบันทึกทุกๆข้อความที่มีการทวีตได้อีกต่อไป

ความเปลี่ยนแปลงอย่างแรกคือจำนวนทวิตเตอร์ที่มีมากมายมหาศาลและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกินความสามารถที่ระบบเก็บข้อมูลจะรองรับ ซึ่งหอสมุดสภาคองเกรสไม่ได้เปิดเผยว่ามากแค่ไหน แต่ข้อมูลเมื่อปี 2013 ระบุว่า หอสมุดได้บันทึกข้อความจากทวิตเตอร์รวมทั้งหมด 170,000 ล้านทวีต โดยเฉลี่ยแล้วต้องบันทึกประมาณวันละ 500 ล้านทวีต นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังเปลี่ยนกฎ ทำให้ผู้ใช้งานทวีตข้อความได้ยาวขึ้นเป็น 280 ตัวอักษร ซึ่งทำให้ต้องใช้พื้นที่บันทึกข้อมูลเพิ่มมากขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ในช่วงหลังๆ ผู้ใช้งานทวิตเตอร์โพสต์ข้อความน้อยลงเรื่อยๆ แล้วหันมาโพสต์รูปภาพและวิดีโอแทนมากขึ้น ทำให้การบันทึกข้อความจากทวิตเตอร์เพียงอย่างเดียวเพื่อใช้อ้างอิงเป็นจดหมายเหตุลดคุณค่าลง  

การบันทึกข้อความบนทวิตเตอร์ เป็นจดหมายเหตุ เป็นสิ่งที่นักประวัติศาสตร์ตื่นเต้นกันอย่างมาก เพราะนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกข้อมูลจากบุคคลทั่วไปและเป็นการบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นแทบจะทุกๆวินาที ซึ่งไม่เคยทำได้มาก่อนในประวัติศาสตร์โลก ก่อนที่จะมีโซเชียลมีเดียเกิดขึ้น ซึ่งข้อมูลนี้จะมีคุณค่าอย่างมากสำหรับคนรุ่นต่อๆไป

หอสมุดคองเกรสยังไม่ได้ระบุว่าจากนี้ไปจะมีหลักการในการคัดเลือกอย่างไรว่าจะบันทึกทวีตใดบ้าง โดยบอกเพียงกว้างๆว่าจะบันทึกทวีตที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญ เช่นการเลือกตั้ง หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศ 

ภาพ: AP