รายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกที่คาดว่า Justice League จะทำได้ที่ 120 ล้านดอลลาร์ในทวีปอเมริกาเหนืออาจถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ สำหรับภาพยนตร์รวมซูเปอร์ฮีโรของค่าย ดีซี ที่ถูกส่งออกมาเพื่อเป็นคู่แข่งโดยตรงกับภาพยนตร์เรื่อง The Avengers ของค่ายมาร์เวล เพราะเมื่อเรื่อง The Avengers เข้าฉายเมื่อปี 2012 สามารถทำรายได้ในสุดสัปดาห์แรกได้สูงถึง 207 ล้านดอลลาร์ในทวีปอเมริกาเหนือ และทำรายได้ไปทั่วโลกเกือบ 900 ล้านดอลลาร์ ส่วน The Avengers ภาค 2 ที่ออกฉายในปี 2015 ก็ทำรายได้สุดสัปดาห์แรกสูงถึง 191 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถ้า Justice League ทำรายได้ในช่วงสุดสัปดาห์แรกได้ที่ 120 ล้านดอลลาร์จริง ก็ถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่น่าพอใจสำหรับหนังระดับนี้

สาเหตุที่ทำให้ Justice League อาจจะไม่ได้เปิดตัวเปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร เพราะว่าหนังที่มีการรวมตัวละครจากค่ายดีซีสองเรื่องก่อนหน้านี้ คือ Batman V Superman และ Suicide Squad ที่เปิดตัวด้วยรายได้ 166 ล้านดอลลาร์ และ 133 ล้านดอลลาร์ แต่กลับได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร และไม่เป็นที่ถูกใจแฟนหนังจำนวนมาก ทำให้มาคราวนี้แฟนหนังหันมาระวังตัวกันมากขึ้น แทนที่แฟนหนังทุกคนจะรีบซื้อตั๋วเพื่อไปดูหนังก่อนใครในสัปดาห์แรก ก็กลายเป็นแฟนหนังบางส่วนเลือกที่จะรอให้มีคนไปดูก่อนแล้วดูคำวิจารณ์ที่ออกมาว่าเป็นยังไง แล้วค่อยตามไปดู ก็เลยทำให้รายได้เปิดตัวของ Justice League น่าจะลดต่ำลงมา  

เพราะฉะนั้น รายได้ของ Justice League ในสัปดาห์ต่อมาจะสูงขึ้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชมที่เข้าไปดูในสัปดาห์แรกจะชอบหนังหรือไม่ ซึ่งดีซีเองก็ได้มีการปรับปรุงเนื้อหาหลายๆอย่างให้เป็นที่ถูกอกถูกใจคนดูมากขึ้น เพราะตอนที่ Batman V Superman ออกฉายเมื่อปีที่แล้ง คนดูก็วิจารณ์ว่าหนังมีความมืดหม่นเกินไป เล่าเรื่องช้า ทำให้หนังยาวถึง 3 ชั่วโมง ทำให้คราวนี้ Justice League ที่ถูกตัดต่อพร้อมฉายแล้วมีความยาว 2 ชั่วโมง 1 นาทีซึ่งถือว่าเป็นหนังที่สั้นที่สุดของค่ายดีซี และก็มีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับด้วย ให้ปรับวิธีการเล่าเรื่องให้สนุกสนานมากขึ้น

สัปดาห์ที่แล้ว บล็อกเกอร์และนักวิจารณ์หนังกลุ่มหนึ่งได้รับเชิญให้ไปดูหนังเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีข้อแม้ว่าจะเขียนรีวิวหนังได้แค่ 1 วันก่อนที่หนังจะเข้าโรง แต่สามารถเขียนความรู้สึกสั้นๆหลังดูหนังจบก่อนได้ ซึ่งนักวิจารณ์หนังที่ได้ไปดู Justice League แล้ว ก็แสดงความคิดเห็นโดยรวมๆว่าหนังสนุกใช้ได้ มีฉากแอคชันที่ยอดเยี่ยม การรวมกลุ่มกันของซูเปอร์ฮีโรทั้ง 5 คนก็เข้าขาและรับส่งมุกตลกกันได้ดีมาก มีบางคนที่เด่นเป็นพิเศษ ส่วนข้อเสียก็มีเหมือนกัน นักวิจารณ์บางคนแสดงความคิดเห็นว่า หนังยังมีปัญหาเรื่องการเล่าเรื่อง ส่วนตัวร้ายก็ไม่ค่อยน่ากลัว เลยทำให้หนังขาดความน่าตื่นเต้นและน่าจดจำ