ไม่พบผลการค้นหา
'สุเทพ เทือกสุบรรณ' พร้อมแกนนำพรรครวมพลังประชาชาติลงพื้นที่ย่านบึงกุ่ม ชวนประชาชนร่วมสมัครสมาชิกพรรค มวลชนคึกคักเป่านกหวีดต้อนรับสนั่นตลาดปัฐวิกรณ์ พร้อมปักธงลงสาขาแรกของกรุงเทพฯ เตรียมเดินสายต่างจังหวัด แย้มแต่งตัวรอเป็นรัฐบาลแน่ ย้ำคำเดิมหนุน 'ประยุทธ์' เป็นนายกฯ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วย พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ นายสำราญ รอดเพชร กรรมการบริหารพรรค น.ส.จุฑาทัตต เหล่าธรรมทัศน์ เหรัญญิกพรรค พร้อมด้วยนายแมน เจริญวัลย์ อดีต ส.ก.เขตบึงกุ่ม ลงพื้นที่ตลาดปัฐวิกรณ์ เขตบึงกุ่ม เพื่อเปิดรับสมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยมีประชาชนให้ความสนใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคให้ความสนใจประมาณ 100 คน ทันทีที่นายสุเทพ เดินทางมาถึงประชาชน ร่วมต้อนรับและทักทายด้วยการเป่านกหวีดเสียงดังสนั่น

นายสุเทพ ทักทายกับประชาชนในเขตบึงกุ่มและพื้นที่ใกล้เคียง โดยระบุว่าวันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เปิดรับสมัครสมาชิก พร้อมกล่าวถึงการต่อสู้ของ กปปส. โดยระบุว่าเป้าหมายใหญ่ของประชาชนในขณะนั้นต้องให้ประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัย ให้ลูกหลาน อยู่ในประเทศอย่างมีความสุข ในการต่อสู้มีมติร่วมกันเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ

โดยเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง เป็นการเมืองที่ดีเป็นการเมืองเพื่อประเทศไทย เป็นการเมืองเพื่อประชาชนคนไทย ไม่ต้องการเห็นการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ของกลุ่มที่แสวงหาประโยชน์โดยเอาเปรียบคนอื่น ไม่ต้องการให้การเมืองเป็นเรื่องเฉพาะของคนมีเงิน เพื่อนำไปสู่การยึดครองอำนาจในประเทศ และใช้อำนาจหาประโยชน์โดยมิชอบ ฉ้อโกงคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นหนทางที่ทำให้บ้านเมืองวิบัติเสียหายเป็นอันตรายร้ายแรงต่อประเทศชาติ ดังนั้น ต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ได้ตัวแทนของประชาชน เข้าไปทำหน้าที่เพื่อประชาชน อย่างแท้จริงไม่ใช่พรรคการเมืองของคนใดคนหนึ่งหรือนักการเมืองเท่านั้น จากนั้นจะต้องปฏิรูป การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะที่ผ่านมาการทุจริตคอร์รัปชันได้สร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างร้ายแรง มีการทุจริตในระดับแสนล้านบาท 

นายสุเทพ ระบุด้วยว่า ประชาชนต้องการเห็นการปฏิรูป การบริหารราชการแผ่นดิน เพราะที่ผ่านมาการบริหารราชการแผ่นดินไม่โปร่งใสไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มีการใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรม ใช้อำนาจโดยไม่ฟังเสียงประชาชน เสียงประชาชนไร้ความหมาย ทำตัวเป็นนายประชาชน นอกจากนี้ ยังเห็นตรงกันว่าจะต้องมีการกระจายอำนาจ ไปยังประชาชนต่างจังหวัดให้จัดการตนเอง เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยตนเอง และต้องแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมเช่นเรื่องการศึกษา ทำอย่างไรให้ลูกหลานคนไทยทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาจนสามารถออกไปหาเลี้ยงตนเองได้ ผ่านกลไกการศึกษาในระดับวิชาชีพ

ขณะเดียวกัน ระบบจัดการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการประกันตนเอง ต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียม รวมถึงต้องแก้ไขเรื่องรายได้ของประชาชนให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ และการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้รวดเร็วเป็นธรรม บริสุทธิ์โดยเฉพาะ การปฏิรูปตำรวจให้เป็นตำรวจของประชาชน ไม่ใช่ตำรวจของนักการเมืองหรือคนมีอิทธิพล ไม่ต้องการเห็นการโยกย้ายโดยใช้เงินเป็นหลัก ดังนั้น การต่อสู้เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปจะไม่สูญเปล่าจึงต้องตั้งพรรคการเมือง เพื่อให้เป็นพรรคของประชาชนให้ประชาชนเป็นผู้กำหนดอนาคต หลังจากนี้ไม่ต้องไปต่อสู้ให้ยากลำบาก ไม่ต้องต่อสู้กลางถนนเหมือนที่ผ่านมา แต่การต่อสู้หลังจากนี้จะเป็นการต่อสู้เพื่อเลือกผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชน

สุเทพสุเทพสุเทพ

นายสุเทพ เชื่อว่าพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนและมีแนวร่วมเป็นประชาชนนับล้านคน จะมีพรรคการเมืองต่างๆ ชวนไปจัดตั้งรัฐบาล และขอกระซิบกับประชาชนว่า จะได้ร่วมเป็นรัฐบาล พร้อมยืนยันว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในพรรครวมถึงในรัฐบาล

นายสุเทพ กล่าวเพิ่มเติม ว่าบุคคลที่มาสมัครเป็นสมาชิกและจ่ายเงิน 50,000 บาทตั้งเป้า 1,000 คน ส่วนคนอื่นๆ ขอเพียงคนละ 365 บาท หรือ เฉลี่ยวันละ 1 บาท แต่หากต้องการเป็นสมาชิกตลอดชีพ ขอคนละ 3,650 บาท พร้อมระบุด้วยว่าหากบริจาคคนละ 1 บาท 365 วันก็ 365 บาท 1 ล้านคนก็ 365 ล้านบาท เพื่อให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใคร ประชาชน จะได้ความเป็นเจ้าของพรรค มีอำนาจในการเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคด้วยมือของประชาชนเอง รวมถึงสามารถกำหนด บุคคลที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งด้วยตัวเอง รวมถึงให้ประชาชน เป็นผู้ร่วมกันกำหนดนโยบาย ผ่านการฟังเสียงประชาชน เหมือนที่เกิดขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนที่มาในวันนี้ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยหวังว่าเขตบึงกุ่มจะเป็นสาขาพรรคสาขาแรกของกรุงเทพมหานคร 

จากนี้ไปจะเดินสายรับสมัครสมาชิกทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดย มั่นใจว่า ไม่ใช่การหาเสียง และไม่ผิดเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด นายสุเทพระบุด้วยว่าการทำงานการเมือง จะไม่เป็นศัตรูกับใครหรือพรรคการเมืองใด ส่วนจะร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ จะมีความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันยืนยันว่ายังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ หากยังยึดมั่น ในแนวทางการปฏิรูปเช่นเดียวกับพรรค