นายธนวัฒน์ วงศ์ไชย ตัวแทนสหภาพนักเรียนนิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลของ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) และการสำรวจของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่า นักศึกษากว่าร้อยละ 70 พร้อมออกไปเลือกตั้ง รัฐจึงมีหน้าที่ขจัดอุปสรรคไม่ให้เกิดปัญหา การไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เช่น วันสอบ GAT PAT หรือวันสอบปลายภาค จะต้องไม่เป็นเงื่อนไขทำให้ นักเรียน นิสิตนักศึกษาไปใช้สิทธิ์ได้น้อย
ทั้งนี้ ตัวเลขของคนรุ่นใหม่ราว 6-7 ล้านคน ถ้าคำนวนเป็นสัดส่วนในสภาประมาณ 71 ที่นั่ง สามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ โดยเฉพาะ ในบริบททางการเมืองที่ไม่สามารถหาพรรคการเมืองเสียงข้างมากในสภาได้ มองว่าพรรคที่เป็นทางเลือกอันดับ 3 หรือพรรคที่คนรุ่นใหม่จะเทคะแนนให้ จะเป็นเงื่อนไขสำคัญทำให้นโยบายที่คนรุ่นใหม่คิด และนำไปสู่การปฏิบัติได้มากขึ้น จึงหวังว่า ช่วงก่อนการเลือกตั้ง พรรคการเมืองจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าไปสะท้อนความคิดเห็นและความต้องการเพื่อนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ
ขณะเดียวกัน นายธนวัฒน์ มองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องยาก แต่หากคนรุ่นใหม่ซึ่งมีสัดส่วน 6-7 ล้านคน ร่วมแสดงพลังเป็นอันหนึ่งอันเดียว มองเห็นรัฐธรรมนูญเป็นปัญหา จะนำไปสู่การมีฉันทามติร่วมกันในหมู่คนรุ่นใหม่และขยายออกไปยังคนทุกกลุ่ม โดยใช้กลไกในสิ่งที่ถนัดอย่างโซเชียลมีเดียผลักดัน เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นต้องเสรีและเป็นธรรม เบื้องต้นได้หารือในกลุ่ม นิสิตนักศึกษา ให้ช่วยผลักดันในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือการขจัดอุปสรรค การไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งของคนรุ่นใหม่ และคนทุกกลุ่มต้อง ปล่อยเสรีการสังเกตการณ์ เลือกตั้งจากทั้งในและต่างประเทศ อย่าไปคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นมงคล หรือจะทำให้ประเทศเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติ เพราะกระบวนการสังเกตการณ์จะเป็นกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลและชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นมีความเสรีเป็นธรรมจริงหรือไม่