นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจแสดงความจริงใจหากต้องการนำพาบ้านเมืองไปสู่การเลือกตั้ง ด้วยการเปิดใจกว้างรับฟังข้อวิพากษ์วิจารณ์และความคิดเห็นของประชาชน หลังจากมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และ คสช. โดยเฉพาะการเอาผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ. คอมฯ
นายณัฐวุฒิ ย้ำว่า การเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งโดยที่ประชาชนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองได้นั้น ไม่ใช่บรรยากาศที่ทุกคนปรารถนา ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้สื่อสารประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สื่อสารไปยังนายกรัฐมนตรีบ้าง
ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทบทวนในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการนำพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์มาบังคับใช้ ทุกอย่างควรปฏิบัติด้วยเหตุผล ด้วยความรู้สึกว่าประชาชนทุกฝ่ายไม่ใช่ปฏิปักษ์ และไม่ใช่คู่ต่อสู้
นายณัฐวุฒิ ให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่า การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็งเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกสังคม แต่ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องมีหัวใจที่เข้มแข็งด้วย อย่าลืมคำว่าหลักนิติธรรม เมตตาธรรม โดยเฉพาะคำว่าสิทธิเสรีภาพเป็นของประชาชน อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ซึ่งทุกอย่างต้องประกอบกัน หากหยิบกฎหมายมาใช้เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีองค์ประกอบอื่น อาจกลายเป็นการลุแก่อำนาจ
เลขาธิการ นปช.ยังตั้งข้อสังเกตถึงการใช้พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์เอาผิดกับนักการเมือง โดยเฉพาะกรณีของนายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกพรรคประชาธิปัตย์ฟ้องเอาผิดตามพระราชบัญญัติฉบับนี้
โดยมองว่าการใช้พ.ร.บ. คอมฯ เอาผิดบุคคลใดคงเป็นรายกรณี เพราะพระราชบัญญัตินี้มีอัตราโทษสูงกว่าข้อหาหมิ่นประมาทธรรมดา การเดินหน้าฟ้องร้องนายนครของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการดำเนินการเพื่อลดกระแสทางการเมือง และหวังผลทางการเมืองมากกว่าชนะทางคดี