ไม่พบผลการค้นหา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้รับการปล่อยตัวหลังได้รับโทษครบ 1 ปี 15 วัน

คดีที่นายจตุพร ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 15 วัน คือคดีหมิ่นประมาท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากการพูดปราศรัยในที่ชุมนุม นปช.กล่าวหานายอภิสิทธิ์เป็นฆาตรกร โดยศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุกไม่รอลงอาญา

บรรยากาศการต้อนรับนายจตุพรโดยมีครอบครัวและแกนนำ นปช. มารอต้อนรับคับคั่ง

โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่าภารกิจต่อไปคือยังต้องทำงานและหาทางออกให้บ้านเมือง และเห็นว่าแต่ละฝ่ายต้องหาทางออกร่วมกัน

นายจตุพร กล่าวว่าภารกิจของพวกเรายังต้องเดินหน้าและทำงานต่อไป หนทางข้างหน้าของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นเรื่องของคนไทยทุกคนที่จะต้องร่วมกันหาทางออก ซึ่งประวัติศาสตร์ได้สอนเราทุกครั้งว่าประเทศไทยจะตายก่อนแก้ปัญหาเสมอ แต่ไม่เคยแก้ปัญหาก่อนตายแม้แต่เพียงครั้งเดียว เพราะฉะนั้นหนทางที่เป็นวิกฤติชาติบ้านเมืองอยู่นั้น เห็นว่าแต่ละฝ่ายคงต้องตระหนักหาทางออกร่วมกัน

ประธาน นปช. กล่าวด้วยว่าระหว่างที่อยู่ในเรือนจำได้พบปะและพูดคุยกับนายนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและ อดีตพระพุทธะอิสระแกนนำกปปส.บ้าง และระบุว่าได้กล่าวกับทั้งสองคนว่าไม่มีการพกความคับแค้นเข้ามาในคุก เพราะในคุกคือสังคมแห่งการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน และไม่เคยคิดว่าตัวเองทำถูกทุกเรื่อง ทั้งยังได้เปิดใจพูดคุยกันในเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองในอนาคต

นายจตุพร มองกรณีการดูดส.ส.ที่เกิดขึ้นว่า เหมือนเป็นการเริ่มต้นที่จุดวิกฤตศรัทธา ซึ่งอาจนำไปสู่หายนะ เป็นปรากฎการณ์การเมืองที่ถอยย้อนหลังไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทำให้เห็นว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร ดังนั้นควรแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยจุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง เพราะวิธีการที่ไม่ถูกต้องนี้จะนำมาซึ่งความเสื่อม และทำให้บ้านเมืองย่ำแย่กว่าเดิม

ทั้งนี้ นายจตุพรระบุว่าวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) จะเดินทางไปพบมวลชนที่อิมพีเรียลลาดพร้าว

ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ซึ่งไปต้อนรับนายจตุพรกล่าวถึงกระแสดูดส.ส.และคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้นว่าสถานการณ์นี้จะทำให้ประชาชนได้เรียนรู้และเป็นการคัดกรองคน โดยเฉพาะการคัดกรองว่าใครที่เป็นนักต่อสู้ที่แท้จริง

นางธิดา ยังระบุว่ายินดีต้อนรับนายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เข้าสู่ฝ่ายประชาธิปไตย แม้จะเปิดตัวและมาช้าแต่ก็ดีกว่าไม่มา ซึ่งต้องให้คะแนน ซึ่งเวลาจะพิสูจน์ว่านายนครทำเพื่อผลประโยชน์หรืออุดมการณ์