ไม่พบผลการค้นหา
จักรยานยนต์รับจ้างในเขต กทม. เรียกร้อง แกร็บ ประเทศไทย ยุตินำรถจักรยานยนต์ป้ายขาว รับส่งผู้โดยสารผ่านระบบแกร็บ ชี้ผิดกฎหมาย เป็นต้นเหตุวิวาทแย่งผู้โดยสาร

นายสันติ ปฏิภาณรัตน์ ตัวแทนชมรมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะแห่งกรุงเทพมหานคร ยื่นหนังสือถึงผู้บริหาร บริษัท แกร็บ แท็กซี่ ประเทศไทย โดยตัวแทนฝ่ายกฏหมายของแกร็บ มารับหนังสือแทน ที่ด้านหน้าอาคารธนภูมิ

โดยหนังสือเรียกร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เชิญผู้บริหารของแกร็บไปพูดคุย และมีคำสั่งให้หยุดนำรถป้ายขาวมารับ-ส่ง ผู้โดยสาร นอกจากผิดกฎหมายแล้ว ยังนำไปสู่การทะเลาะวิวาทระหว่างจักรยานยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนกับแกร็บไบค์ เนื่องจากแย่งผู้โดยสารกัน จึงอยากให้ยุติการดำเนินการดังกล่าว

ทั้งนี้ ระหว่างรอการยื่นหนังสือ ผู้ขี่จักรยานยนต์รับจ้างได้นำเสื้อวินสีส้มมาเผา เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย

ภายหลังการยื่นหนังสือ นายสันติ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายที่มารับหนังสือ ระบุเพียงว่าจะแจ้งเรื่องดังกล่าวกับผู้บริหาร แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ ดังนั้น ชมรมจะติดตามต่อไปว่าบริษัทแกร็บ จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องหรือไม่ หากไม่ดำเนินการ จะมีแนวทางเรียกร้องต่อไป เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาจักรยานยนต์รับจ้างประสบปัญหาเรื่องการถูกแย่งผู้โดยสาร เพราะค่าบริการถูกกว่า ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วการกำหนดราคาค่าโดยสารมีมาตรฐานที่กำหนดจากหน่วยงานภาครัฐอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังยื่นหนังสือเสร็จสมาชิกชมรมได้ทยอยเดินทางกลับโดยมีตำรวจจาก สน.มักกะสันมาดูแลความเรียบร้อย

ทั้งนี้แกร็บ ได้ออกแถลงการณ์สืบเนื่องจากการที่มีกลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้างรวมตัวเพื่อเรียกร้องกรณีแกร็บไบค์ ที่อาคารสำนักงานบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 นั้น บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทฯ รับทราบเรื่องแล้วและได้มอบหมายให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเจรจากับกลุ่มผู้เรียกร้องและติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันหาทางออกที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย

ในช่วงที่ผ่านมา แกร็บ ได้มีการพูดคุยกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอถึงประโยชน์ของการใช้แอพพลิเคชั่นมือถือเรียกรถจักรยานยนต์ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อมอบการเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัยของผู้โดยสาร รวมถึงช่วยเพิ่มงานเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างทั้งระบบ โดยเรามุ่งทำความเข้าใจอันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย พร้อมขอให้ภาครัฐพิจารณาและดำเนินการสนับสนุนการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณชนเป็นสำคัญ ซึ่งทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา 

ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นให้บริการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเดินทางขนส่ง เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ในราคาที่เข้าถึงได้ แกร็บเล็งเห็นว่าเราสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเดินทางและการให้บริการของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ อาทิ บริการรับคนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องเดินไปยังจุดจอดรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ส่วนผู้ขับขี่ก็ไม่ต้องเสียเวลาในการนั่งรองานเป็นเวลานาน หรือวกรถเปล่ากลับมาที่จุดจอดเดิมหลังจากส่งผู้โดยสารถึงจุดหมาย

ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียค่าใช้จ่ายและเชื้อเพลิงโดยเปล่าประโยชน์ และเพิ่มต้นทุนในการให้บริการ นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่บริษัทฯ นำมาใช้สำหรับบริการเรียกรถรับส่งดังกล่าว ยังสร้างโอกาสให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้าง มีงานและมีรายได้เพิ่มมากขึ้นสำหรับเลี้ยงครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะในช่วงเวลาที่ไม่ได้รับ-ส่งผู้โดยสาร ผู้ขับขี่ยังสามารถรับงานส่งพัสดุผ่านบริการแกร็บไบค์ (เดลิเวอรี่) และส่งอาหารผ่านบริการแกร็บฟู้ด เพิ่มเติมได้อีกด้วย ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เวลาที่มีค่าในการหารายได้ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น แกร็บ ยังมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ห่วงใยทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อาทิ การมีศูนย์ช่วยเหลือที่ทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลทั้งสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยเฉพาะในส่วนของผู้โดยสารนั้น แกร็บได้พัฒนาฟีเจอร์หลักที่สร้างความมั่นใจและปลอดภัยในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร อาทิ การแจ้งข้อมูลผู้ขับขี่และพาหนะเมื่อมีการเรียกรถ การติดตามการเดินทางผ่าน GPS ฟีเจอร์แชร์การเดินทางแบบเรียลไทม์ให้กับบุคคลที่ห่วงใย ระบบการให้คะแนนบริการผู้ขับขี่ และปุ่มฉุกเฉินภายในแอพพลิเคชั่นเพื่อสามารถกดแจ้งเหตุด่วนได้ในทันที โดยเรากำลังพัฒนาฟีเจอร์ปุ่มฉุกเฉินดังกล่าว เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใส่เบอร์มือถือรับแจ้งเพิ่มเติมซึ่งเจ้าของจะได้รับข้อความเตือนทันทีเมื่อผู้โดยสารกดปุ่มฉุกเฉิน ซึ่งในปัจจุบัน มีทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ต่างก็เห็นถึงประโยชน์และมีความต้องการบริการในรูปแบบดังกล่าว

ทั้งนี้ แกร็บ มีการแยกบริการแกร็บไบค์ (วิน) สำหรับการรับส่งผู้โดยสาร และแกร็บไบค์ (เดลิเวอรี่) สำหรับการรับส่งเอกสารและพัสดุออกจากกันอย่างชัดเจน โดยป้ายทะเบียนสีขาวใช้สำหรับการรับส่งเอกสารและพัสดุเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีผู้เรียกใช้บริการมากเป็นพิเศษ แต่มีจำนวนรถให้บริการไม่เพียงพอ มีความเป็นไปได้ที่ระบบมีการแบ่งงานทับซ้อนกัน ซึ่งสำหรับในเรื่องที่มีผู้เสนอให้นำผู้ขับขี่ที่เป็นป้ายดำอยู่ไปขออนุญาตป้ายเหลืองทั้งหมดนั้น บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับตัวบทกฎหมาย เนื่องจากการที่ผู้ขับขี่จะจดเป็นป้ายเหลืองได้นั้น จำเป็นต้องมีการรับงานประจำวินและรับงานเฉพาะเขตที่ระบุเท่านั้น ซึ่งไม่สอดรับกับการใช้งานจริงของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงสิ่งที่เทคโนโลยีสามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาได้ในปัจจุบัน

แกร็บ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยยกระดับรายได้และมาตรฐานการให้บริการและคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่ พร้อมพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของประเทศให้ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้นแก่สาธารณชนผู้ใช้บริการ ซึ่งบริษัทฯ มองว่าจะเป็นการช่วยพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 อีกทางหนึ่ง

1)  ความคืบหน้าเรื่องกฏหมายซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการของแกร็บในประเทศต่างๆหากพิจารณาถึงกฎหมายในส่วนของธุรกิจรถร่วมโดยสาร (Ride-Sharing) ใน 8 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่แกร็บกำลังดำเนินธุรกิจอยู่นั้น มีอยู่ 7 ประเทศ ยกเว้นประเทศไทย ที่แกร็บสามารถร่วมให้บริการขนส่งสาธารณะได้อย่างถูกต้องภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ 5 ประเทศที่มีการแก้ไขให้ถูกกฎหมาย ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และ กัมพูชา

ประเทศที่กำลังนำร่องภายใต้ Regulatory Sandbox และรอการแก้ไขกฎหมาย ได้แก่ เวียดนามและ พม่าสำหรับการให้บริการแกร็บไบค์ในปัจจุบัน นอกเหนือจากประเทศไทยแล้ว แกร็บได้เปิดให้บริการในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และกัมพูชา ซึ่งล้วนได้รับการสนับสนุนอันดีจากภาครัฐในทุกประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว

2) มาตรการและการควบคุมผู้ขับขี่แกร็บ มีนโยบายการตรวจสอบผู้ที่เข้ามาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่พร้อมถึงหลักปฏิบัติที่เข้มงวด ที่ผ่านมา เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่มีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ผู้ขับขี่ของเราถูกคุกคามและกระทำด้วยความรุนแรง โดยเราได้ประกาศมาตรการและหลักปฏิบัติที่ชัดเจนให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงหากถูกยั่วยุและละเว้นการตอบโต้ด้วยความรุนแรงในทุกกรณี พร้อมใช้ความอดทนเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้โดยสารเป็นหลัก และรวบรวมหลักฐานเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในทันที เมื่อเกิดเหตุ

อย่างไรก็ตาม แกร็บ อยากขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลด้วยอีกทางหนึ่ง เนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงนั้นไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ทางเราเองขอยืนยันว่า ได้ดำเนินมาตรการที่มีเพื่อให้ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ของเราได้รับความปลอดภัยมากที่สุดที่เราสามารถกระทำได้แล้ว เนื่องด้วยความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ขับขี่เป็นสิ่งที่ แกร็บ ให้ความสำคัญสูงสุดเสมอมา

3)  การดำเนินการเพื่อลดความขัดแย้งต่อเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แกร็บ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้ทำการแจ้งแก่กลุ่มผู้ขับขี่ของเราให้หลีกเลี่ยงจุดทับซ้อนการให้บริการกับผู้ขับขี่วิน และเน้นรับผู้โดยสารที่มีความเดือดร้อน อาทิ อยู่ในซอยลึกห่างไกลวิน เป็นต้น รวมถึงคาดโทษหากพบผู้ขับขี่ที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรงตอบโต้หรือก่อเหตุ จัดเวทีให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับผู้ขับขี่วิน และเชิญแกนนำผู้เรียกร้องร่วมหารือโดยมีภาครัฐเป็นตัวกลาง เป็นต้น 


4.) ผู้ขับขี่ที่จะมาสมัครให้บริการแกร็บไบค์ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างผู้สมัครร่วมให้บริการเป็นพาร์ทเนอ์ผู้ขับขี่ของแกร็บไบค์ต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ มีใบขับขี่ส่วนบุคคลหรือสาธารณะที่ยังไม่หมดอายุ บัตรประชาชนและเอกสารรถ (รวมถึงเอกสารยินยอมการใช้รถ) เพื่อลงทะเบียน โดยคนขับจะต้องกรอกรายละเอียดเพื่อยินยอมให้บริษัทส่งตรวจประวัติอาชญากรกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนจึงจะสามารถให้บริการได้

5.) บริษัท แกร็บ จดทะเบียนถูกต้องและมีการจ่ายภาษีหรือไม่แกร็บ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และดำเนินการให้บริการทุกบริการในประเทศไทยภายใต้ชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการว่า บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด

โดยนับตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปีพ.ศ. 2556 แกร็บ ได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับต่างๆ ด้านภาษีอากรของกรมสรรพากรอย่างเคร่งครัด ซึ่งหมายรวมถึงการชำระภาษีที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตลอดจนการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้และเอกสารอื่นๆ ตามระเบียบข้อบังคับของทางกรมสรรพากรมาโดยตลอด เนื่องจากแกร็บเป็นบริษัทที่จดทะเบียนก่อตั้งในประเทศไทย บริษัทฯ จึงมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายจำนวนร้อยละ 3 จากรายได้ที่เรานำจ่ายแก่สมาชิกผู้ขับขี่ทุกคนจากทุกบริการ และบริษัทฯ ก็ได้นำเงินภาษีที่หักนั้นส่งให้กรมสรรพากรอย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการออกใบกำกับภาษีและหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้กับสมาชิกผู้ขับขี่ของเราทุกคน เพื่อให้พวกเขาสามารถนำไปเป็นหลักฐานประกอบการแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่กรมสรรพากรบัญญัติไว้ทุกประการ นอกจากนี้ รายได้ทั้งหมดของแกร็บ ที่ได้รับจากการให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียกรถในประเทศไทย ยังได้รับการบันทึกอย่างครบถ้วนในบัญชีของบริษัทซึ่งรวมถึงการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 จากรายได้ดังกล่าว

ในฐานะที่แกร็บ ประเทศไทยเป็นบริษัทที่จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย บริษัทฯ จึงพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมภารกิจของรัฐบาลไทยในการยกระดับการให้บริการเดินทางขนส่งรูปแบบต่างๆ ให้ปลอดภัยและมอบความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้บริการยิ่งขึ้น บริษัทฯ พร้อมจะสนับสนุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐเพื่อร่วมสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่สาธารณชน

ข่าวเกี่ยวข้อง :