วันที่ 28 มิ.ย. 2566 อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวแสดงความเห็น หากต้องทำหน้าที่รักษาการอีกยาว ว่า ไม่รู้ ตนมองว่ามันอยู่ที่กระบวนการ เราอย่าไปคิดเยอะเกิน

เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ยังถกเถียงกันเรื่องตำแหน่งประธานสภา ที่ยังไม่ลงตัว จะส่งผลอะไรหรือไม่ อนุชา มองว่า เป็นเรื่องธรรมดาในการเจรจาพูดคุยตั้งรัฐบาลทุกครั้งที่จะต้องพูดคุยกันในสถานะต่างๆ ที่เรารู้อยู่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการตั้งรัฐบาล

ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภาพรรครวมไทยสร้างชาติ จะโหวตให้กับพรรคใด อนุชา ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ ต้องแล้วแต่พรรค และขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ทั้งนี้ตนก็จะโหวตตามมติของพรรคเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะตนไม่เคยฝืนมติพรรคแม้แต่ครั้งเดียว และมองว่าการเมือง หากเราต้องการอยู่ร่วมกันและทำงานให้เป็นปึกแผ่นเพื่อประเทศชาติ ถ้าไม่ฟังอะไรเลยมันก็ไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องเอากฎเกณฑ์เป็นหลัก เพราะหากไม่เอากฎเกณฑ์เป็นหลักบ้านเมืองก็เดินไปได้ยาก ซึ่งส่วนตัวยืนแบบนี้มาตลอด

ส่วนได้พูดคุยกันในกลุ่มสามมิตรหรือไม่ อนุชา ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการพูดคุย และไม่เคยพูดคุยกันเรื่องการเมืองเลย

เมื่อถามว่า จากสถานการณ์ที่มีการแย่งตำแหน่งประธานสภา ซึ่งอาจจะล่าช้าจะส่งผลอะไรหรือไม่อนุชา มองว่า ไม่ส่งผลอะไรมากมาย ขณะนี้ก็มีรัฐบาลรักษาการที่ทำงานได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ พร้อมมองว่าเรื่องของการเมืองจะนำมาเกี่ยวข้องกับงานบริหารมันก็ไม่ใช่ 

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นนักการเมืองคร่ำหวอดมานาน มองสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร อนุชา กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของการจัดตั้งรัฐบาล ทุกครั้งก็เป็นเช่นนี้ ซึ่งอยู่ที่การพูดคุยเจรจาตกลงกัน และว่าไปตามกระบวนการ พร้อมปฏิเสธตอบว่า การจัดตั้งรัฐบาลมีโอกาสจะหลุดมาฝั่งรัฐบาลเดิมหรือไม่ เพราะมันต้องอยู่ที่พรรคแกนนำซึ่งเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามต่อถึงกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เคยเปรียบว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ อนุชา ระบุว่า ทุกพรรคการเมืองก็คงเหมือนกันที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานให้ประชาชนและประเทศชาติไม่ว่าอยู่ในฐานะใด จะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน 

ส่วนพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิมจะมีการเสนอชื่อประธานรัฐสภาหรือไม่ อนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่เห็นมี และไม่เคยได้ยินเลย และเชื่อว่าคงไม่มี 

ส่วนจะโหวตให้ สุชาติ ตันเจริญ หรือไม่ เรื่องนี้ตนไม่ทราบ และยิ่งไม่มีการพูดคุยกันเลย โดยตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องที่พรรคฝ่ายแกนนำรัฐบาลต้องไปดำเนินการพูดคุยกันเอง

เมื่อถามว่า จะมีกรณีส้มหล่นมาฝั่งรัฐบาลเดิมหรือไม่ อนุชา ระบุว่า คงไม่มี และจะเป็นไปตามครรลอง