พรรคเพื่อไทย ออกคำแถลงการณ์ เรื่อง คสช. และรัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลต่อไป โดยระบุว่า การใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ออกประกาศและคำสั่ง ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาช สื่อมวลชน และนักวิชาการ แม้เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ก็ยังคงคำสั่งและประกาศที่ละเมิดสิทธิ เสรีภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอดมา ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง มีการแต่งตั้งคนของตัวเองมาทำหน้าที่ในองค์กรอิสระและองค์กรต่างๆ ซึ่งถูกชี้นำโดย คสช. อีกทั้งยังใช้กลไกที่ตนเองสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการสืบทอดอำนาจด้วย ล่าสุดผู้นำ คสช. (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม) ได้ออกมาข่มขู่ผู้ที่จะออกมาเรียกร้องให้คืนสิทธิ เสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย โดยอ้างว่าขณะนี้ตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งเป็นถ้อยคำที่แสดงให้เห็นว่าไม่ยอมรับในการมีรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในขณะนี้
แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย ยังระบุว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมได้ ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ประชาชนยังขาดกำลังซ์้อ ขณะเดียวกันไม่สามารถแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นได้ เพราะมีการเรื่องทุจริตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อไมค์ราคาแพงในห้องประชุม คาม. การจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นต้น รวมถึงมีแกนนำ คสช.บางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครื่องวัตถุระเบิด จีที 200 และเรือเหาะก็ไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง รวมทั้งเรื่องการครอบครองนาฬิการาคาแพงของ พล.อ.ประวิตร ด้วย
พรรคเพื่อไทย ระบุว่า คสช.และรัฐบาล ไม่มีความจริงใจที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชนเพื่อจัดการเลือกตั้ง เริ่มจากการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณก็ถูกคว่ำโดยสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) การกำหนดเงื่อนไขการจัดทำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ใช้เวลายกร่างยาวนานแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาของการยืดเวลาเพื่อให้อยู่ในอำนาจชัดเจน
"ที่สำคัญ หัวหน้า คสช. เอง ก็ได้ให้สัญญากับประชาชนและนานาชาติว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่ก็ได้ผิดคำพูดมาโดยตลอด ล่าสุดให้สัญญาว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 แต่กลับมีการยืดเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 90 วัน ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การเลือกตั้งจะเลื่อนไป และคงไม่เกิดขึ้นก่อนเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรืออาจจะไม่มีในปี 2562 ด้วยซ้ำ การที่มีการเลื่อนการเลือกตั้งไปเรื่อยๆ ก่อให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อหัวหน้า คสช. อย่างรุนแรง"
พรรคเพื่อไทย จึงเห็นว่า คสช. และรัฐบาล และแม่น้ำ 5 สาย เข้าข่ายสมคบคิดกัน เพื่อใช้กลไกทางอำนาจและกลไกตามรัฐธรรมนูญที่สร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันในการได้อยู่ในอำนาจต่อไป จึงเห็นว่า คสช. และรัฐบาลหมดความชอบธรรม และ 4 ปีของการยึดอำนาจการปกครอง ได้พิสูจน์ให้คนไทยและสังคมโลกเห็นอีกครั้งแล้วว่า การรัฐประหารโดยล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไม่อาจแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ในทางตรงกันข้ามกลับจะสร้างปัญหา และผลกระทบต่อประเทศในวงกว้าง ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดของ คสช.ในขณะนี้ คือ การคืนอำนาจให้แก่ประชาชนโดยเร็ว