การเมือง
'ประยุทธ์' โดนขับรถประกบ 'บีบแตรไล่' ก่อนเข้าทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ช่วงเช้าวันที่ 17 ส.ค. 2563 ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางจากบ้านพักภายใน กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยรถเบนซ์กันกระสุน ทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร และใช้เส้นทางด่วนดินแดงเพื่อมาลงที่ยมราช ปรากฏว่ามีรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่นเก่า สีเขียวอมฟ้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร พยายามที่จะขับประกบขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยผู้ขับรถเป็นชายวัยกลางคน ขับมาเพียงคนเดียว
ผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเปิดไฟกะพริบพร้อมบีบแตรไล่เป็นระยะ โดยขับตามประกบและบีบแตรไล่ขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดทาง แม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามที่จะกันไม่ให้เข้าใกล้ขบวนของนายกฯ ก็ตาม แต่รถเก๋งคันดังกล่าวก็ได้พยายามขับตามจนถึงทางลงด่วนยมราช เจ้าหน้าที่จึงสกัดอีกครั้ง รถคันดังกล่าวยังขับตามไปจนถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณแยกพาณิชย์ และขับตรงเลยไปยังถนนราชดำเนินและหายไปในที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เพื่อตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร และมีวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งล่าสุดทางสันติบาลตรวจสอบข้อมูลและทราบว่าผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเป็นใคร พบเบาะแสบ่งชี้ว่าเป็น 'อัยการ'
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ที่มีผู้แสดงท่าทีไม่พอใจ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นครั้งแรก หลังจากที่มีการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และมีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในหลายพื้นที่โดยกลุ่มนิสิตนักศึกษาและประชาชนนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่เคยมีนักศึกษาชูป้ายประท้วงต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2557 สมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ขณะที่การปฏิบัติภารกิจช่วงสายและบ่ายวันที่ 17 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ” (Thailand Education Eco-System) และการแสดงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนการศึกษาไทย ณ ห้อง Auditorium ชั้น 6 อาคารทรู ดิจิทัล พาร์ค ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 13:00 น. เป็นที่น่าสังเกตว่ามีความเข้มงวดด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสูง โดยมีการตั้งจุดตรวจผู้เข้าไปภายในพื้นที่งานหลายจุด เริ่มจากเจ้าหน้าที่อาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยอีโอดี ตรวจวัตถุสิ่งแปลกปลอม ต่างจากก่อนหน้านี้ที่จะตั้งจุดตรวจเพียงจุดเดียว
นอกจากนี้ ทีมรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นทหารนอกเครื่องแบบประจำตัวนายกรัฐมนตรีมีการเพิ่มจำนวนและเดินตรวจตราบริเวณโดยรอบพื้นที่ดังกล่าวตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังได้ให้ทีมงานออกมาเรียกผู้สื่อข่าวเข้าไปนั่งฟังการแสดงวิสัยทัศน์ในห้องที่จัดงานด้วย แต่ก่อนหน้านี้ทางกองสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่า ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง และให้นั่งฟังผ่านจอโปรเจกเตอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
