ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจสากลออกหมายแดงล่าตัวหญิงสิงคโปร์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันกวดวิชาวัย 57 ปี หลังหนีจับกุมขบวนการโกงข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ประเทศสิงคโปร์ ตำรวจสากลได้ออกหมายแดงเพื่อล่าตัว โพ หยวน หนี่ หรือ โพนี่ หญิงชาวสิงคโปร์ วัย 57 ปี อดีตผู้อำนวยการสถาบันกวดวิชาในท้องถิ่น และพวกอีก 3 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ภายในเรือนจำ ฐานอยู่เบื้องหลังขบวนการโกงข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ จำเลยทั้งหมดถูกตัดสินว่ามีความผิด 27 กระทงในข้อหาฉ้อโกง และถูกศาลสั่งจำคุกระหว่าง 2-4 ปี

โดย โพ มีกำหนดเริ่มรับโทษจำคุก 4 ปี ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ไม่ยอมเข้ามอบตัว และคาดว่าเธอน่าจะหนีออกจากประเทศแล้ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสิงคโปร์ดำเนินการออกหมายจับ โพ ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา และได้ยื่นขอ "หมายแดง" จากตำรวจสากลในเดือนธันวาคม พร้อมยื่นอุทธรณ์เพื่อขอข้อมูลว่าเธออยู่ที่ไหน

ทั้งนี้ หมายแดง คือคำขอไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลกเพื่อค้นหาและจับกุมบุคคลที่อยู่ระหว่างการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือการดำเนินการทางกฎหมายที่คล้ายคลึงกัน

จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นสิงคโปร์ ระบุว่า ขบวนการโกงข้อสอบดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเดือนตุลาคม 2559 สำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย 3 รอบ โดยสถาบันกวดวิชาของ โพ จัดการติวข้อสอบให้กับนักเรียน 6 คน อายุระหว่าง 17 ถึง 20 ปี เพื่อช่วยให้พวกเขาสอบผ่านและเข้าเรียนในวิทยาลัยอาชีวศึกษา หรือวิทยาลัยโพลีเทคนิค

ทั้งนี้ โพ ได้รับเงินค่าจ้างอยู่ที่ 8,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 200,000 บาท) ต่อนักเรียน 1 คน รวมถึงค่าสมัคร 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 25,000 บาท) ซึ่งนักเรียนจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนหากสอบไม่ผ่าน

โดยในการสอบ นักเรียนจะนั่งทำข้อสอบตามสถานที่สอบต่างๆ พร้อมสวมหูฟังอินเอียร์ที่มีสีเดียวกับสีผิว ขณะที่ โพ และผู้สมรู้ร่วมคิดของเธอ จะซ่อนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์บลูทูธไว้ใต้เสื้อผ้านักเรียนอย่างระมัดระวัง จากนั้นนักเรียนผู้เข้าสอบจะเผยแพร่ภาพข้อสอบด้วยการไลฟ์ผ่านกล้องโทรศัพท์กลับไปยังสถาบันกวดวิชา เพื่อให้ทีมงานของ โพ บอกคำตอบผ่านหูฟัง ซึ่งนักเรียนคนหนึ่งให้การว่า “ถ้าฉันได้ยินชัดเจน ฉันจะเงียบ ถ้าไม่ ฉันจะต้องไอ”

อย่างไรก็ดี แผนการดังกล่าวถูกเปิดโปงเมื่อหัวหน้าคุมสอบได้ยินเสียงส่งสัญญาณที่ผิดปกติจากนักเรียนคนหนึ่งซึ่งยอมรับสารภาพแต่โดยดีเมื่อถูกซักถาม โดยนักเรียนคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องให้การว่า เขาถูกครูสอนพิเศษกดดันให้โกง และ "ไม่กล้า" บอกพวกเขาว่า ตนเองไม่ต้องการมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้

ที่มา: BBC