นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา กรณีขณะนี้ประเทศไทยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่มากแล้ว เหตุใดจึงยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเรามีพ.ร.บ.โรคติดต่ออยู่แล้ว ว่า ตอนเราใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่ออย่างเดียว ต้องมีการทำงานข้ามกระทรวง ซึ่งการสั่งการทำได้ แต่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานข้ามกระทรวง แตกต่างจากตอนมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เป็นการนำเอากฎหมายกว่า 40 ฉบับ รวมถึง พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้มีการบูรณาการทำงานกัน
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คำแถลงดังกล่าวไม่อาจเรียกว่าคำชี้แจงได้ แต่มีลักษณะที่อาจเข้าข่ายการโฆษณาที่มุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับรัฐบาลที่ยังคงต้องการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป เพื่อควบคุมประชาชน มากกว่าที่จะใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนที่ไม่รู้กฎหมาย พลอยจะหลงเชื่อตามไปกับคำแถลงดังกล่าวได้
ทั้งนี้ หากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ประเทศไทยก็ยังมีพ.ร.บ.โรคติดต่อ และกฎหมายอื่นที่จะสามารถนำมาใช้ควบคู่กันได้ในการควบคุมโรค อาทิ การตั้งคณะทำงานแบบบูรณาการ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีสามารถใช้ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ม.11 มาใช้แทนได้ การสั่งห้ามการออกนอกเคหสถาน(เคอร์ฟิว) และการสั่งห้ามการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมกัน สามารถใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ม.34 แทนได้ การควบคุมการเปิดหรือปิดสถานที่ สามารถใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ม.35 แทนได้ การควบคุมการเดินทางเข้าออกประเทศ สามารถใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ม.39-43 แทนได้ การแก้ไขปัญหาการกักตุนสินค้า ก็สามารถใช้ พ.ร.บ.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ แบะ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ แทนได้ และอำนาจในการควบคุมการเสนอข่าว ก็สามารถใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.384 มาแทนได้
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าการที่รัฐบาลยังคิดแต่จะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป จะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะการทำลายวงจรเศรษฐกิจของประเทศ และก่อปัญหาสังคมตามมากมาย แม้จะกู้เงินมาช่วย 1.9 ล้านล้านบาทก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ นอกจากจะนำไปสู่การสร้างปัญหาใหม่ๆขึ้นมาอีกมากมาย ทั้งปัญหาความขัดแย้งในสังคม ปัญหาคอรัปชั่น ฯลฯ ที่สำคัญกำลังจะกลายเป็นเครื่องมือหากินของเจ้าหน้าที่รัฐบางคนในการกินหัวคิวกรณี State Quarantine รวมทั้งการที่พนักงานเจ้าหน้าที่นำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์การควบคุมโรค แต่กลับนำไปใช้ข่มขู่ชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นที่ จ.สงขลา เป็นต้น
"นพ.ทวีศิลป์ เป็นข้าราชการที่มีภาพลักษณ์ดี แต่ยิ่งใช้ต้นทุนภาพลักษณ์ของตนเองมาแก้ตัวให้รัฐบาลเช่นนี้ สุดท้ายจะทำให้เสื่อมไปในที่สุดได้ เพราะคนไทยไม่ได้กินแกลบ กินหญ้า" นายศรีสุวรรณ กล่าว