พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีเครือข่ายกลุ่มคนไร้บ้านออกมาระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทำให้มีการเลิกจ้างงานส่งผลให้มีคนไร้บ้านเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งจำนวนนี้มีผู้พ้นโทษที่ทางเรือนจำทั่วประเทศได้ทยอยปล่อยมาเป็นระยะๆ และมีบางส่วนที่อาจเดินทางกลับภูมิลำเนาไม่ทัน เนื่องจากติด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ที่ได้รับการปล่อยตัวจะเดินทางกลับภูมิลำเนาตามที่ได้แจ้งไว้ในทะเบียนประวัติ และจะมีญาติเดินทางมารับ
แต่ในกรณีที่มีภูมิลำเนาห่างไกลไม่สามารถเดินทางกลับได้ทัน ทางเรือนจำและกรมราชทัณฑ์จะจัดที่พักชั่วคราวในบ้านกึ่งวิถี สถานสงเคราะห์ในสังกัดกรมคุมพฤติ หรือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) พร้อมมีอาหารให้รับประทาน ก่อนที่ญาติจะเดินทางมารับ หรือส่งต่อให้สำนักงานคุมประพฤติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวก ซึ่งปกติผู้ต้องขังที่พ้นโทษก็อยากจะกลับบ้านไปเร็วๆ ไม่มีใครอยากอยู่ในเรือนจำต่อ
อย่างไรก็ตาม การปล่อยตัวจะมีหลายกรณี เช่น ปล่อยตัวชั่วคราว การให้ประกันตัว หรือผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา เนื่องจากจะมีญาติหรือครอบครัวเดินทางมารับกลับบ้าน เช่นเดียวกับผู้ต้องหาที่พ้นโทษ ซึ่งต่างจากผู้ต้องขังที่ไร้ญาติ แม้ทางเรือนจำหรือกรมราชทัณฑ์จะมีเงินสงเคราะห์จากกองทุนสวัสดิการและสงเคราะห์ผู้ต้องขังของเรือนจำและทัณฑสถาน หรือประสานมูลนิธิพิบูลสงเคราะห์ให้การช่วยเหลือเป็นค่ายานพาหนะ รวมทั้งเสื้อผ้าที่ได้รับการบริจาคจากหน่วยงานภายนอกให้เป็นการสงเคราะห์ แต่คนพวกนี้อาจไม่มีที่ไป จึงเป็นไปได้ว่าจะออกไปใช้ชีวิตตามลำพัง
"อาจจะมีผู้ต้องขังไร้ญาติที่พ้นโทษแล้วออกไปใช้ชีวิตตามลำพังเป็นคนเร่ร่อน หรือไร้บ้าน แต่มีจำนวนไม่มาก ส่วนผู้พ้นโทษที่ญาติมารับกลับบ้านแล้วอยู่ไม่ได้ ถูกสังคมปฎิเสธไม่ให้การต้อนรับ ไม่มีอาชีพ ไม่มีงานทำ แล้วจะออกมาเป็นคนไร้บ้านหรือคนเร่ร่อนนั้น พวกนี้จะเป็น STEP ที่สอง และมีความเสี่ยงที่จะออกมาเป็นคนไร้บ้าน แต่ขณะนี้เชื่อว่ามีจำนวนน้อยมาก" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว