พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยังไม่ได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรี ถึงการปรับ ครม. ภายหลังนายศษลอาญา พิพากษาสั่งจำคุก ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยยอมรับว่าต้องมีการปรับพิจารณาตามความเหมาะสมขึ้นอยู่นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งในแต่ละตำแหน่ง ยืนยันในตำแหน่งของทั้งสองคน ไม่ใช่โค้วต้าของกลุ่ม กปปส.แต่เป็นในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ และยังปฎิเสธจะมีการสลับปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรี
ด้าน สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวปรับโยกย้ายตำแหน่งรัฐมนตรีของกระทรวงต่างๆ โดยยืนยันตนเองไม่ทราบรายละเอียด แต่ย้ำว่าอยู่ที่กระทรวงเดิมดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ส่วนตนเองจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ไม่ทราบ ขอให้รอการพิจารณา ขณะเดียวกันแกนนำพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้พูดคุยกันในประเด็นนี้ โดยขอหารือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคก่อน
ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกันภายในคณะกรรมการบริหาร ถึงการปรับโควต้า พปชร. เนื่องจากเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานและไม่ได้รีบร้อนอะไรแต่ส่วนตัวคาดว่าจะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้า อีกทั้งยังไม่ทราบกระแสข่าว ที่ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จะนั่งตำแหน่งแทนณัฏฐพลตามที่เป็นกระแสข่าวด้วย
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่ม กปปส. ถูกดำเนินคดีเนื่องจากชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2556-2557 ว่า ส่วนตัวขอให้กำลังใจทุกคนที่ถูกดำเนินคดี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลสมาชิกของพรรคที่ถูกดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนตัวไม่สามารถชี้ได้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และผลที่ตามมาหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้ต้องเร่งขอประกันตัวให้ทุกคนได้ออกมาต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เพราะคดีขณะนี้อยู่ในศาลชั้นต้นเท่านั้น ตอนนี้ต้องทำให้ทุกคนได้รับอิสรภาพก่อน
ส่วนการที่ ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคต้องโทษจำคุก และส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งทันทีนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า พรรคนังไม่ได้วางแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนโควต้าจะมอบให้กลุ่ม ส.ส. ภาคใดนั้น ยังไม่ขอตอบในรายละเอียด เพราะพรรคมีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้ว โดยการพิจารณาตัวรัฐมนตรีนั้นจะพิจารณาในที่ประชุม ส.ส. ของ และที่ประชุมกรรมการบริหารของพรรค
จุรินทร์ ย้ำว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ส่งสัญญาณปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด และยืนยันว่า ไม่กังวลหลังมีกระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ต้องการขอโควต้ารัฐมนตรีเพิ่มมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตามหลักการควรจะจัดสรรโควตารัฐมนตรีเท่าเดิม เหมือนตอนที่ขอร่วมรัฐบาล แต่หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาเรื่องสัดส่วนของแต่ละพรรค และตนเองไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตัดสินใจอะไรได้ยกเว้นในส่วนของพรรคเท่านั้น
ชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ว่าตนไม่มีอำนาจที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ตนมีหน้าที่ที่ต้องทำงานในสภาเท่านั้น ส่วนจะต้องปรับให้เป็นไปตามสัดส่วนของส.ส.ในพรรคหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ทุกคนก็ทำเพื่อรัฐบบาล ของให้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันดีกว่า ซึ่งก็ต้องให้เกียรติพรรคอื่นด้วย
ส่วนเรื่องที่มีการประชุมวิป3ฝ่าย แต่ไม่มีพรรคภูมิใจไทยไปร่วมนั้น ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้มีการแจ้งมา การแสดงออกของพรรคภูมิใจไทยในการที่ไม่เห็นด้วยกับลำดับวาระ หรือการเดินออกจากห้องประชุมก็เป็นการทำเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นลูกมีพ่อมีแม่ ส่วนจะทำให้เกิดความขัดแย้งบานปลายหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ถูกกระทำ และพรรคภูมิใจไทยก็เจ็บปวดเป็นธรรมดา อีกทั้งพรรคมองว่าเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งรีบ ซึ่งเหตุการณ์ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอให้เลื่อนวาระแก้รัฐธรรมนูญขึ้นมาก่อนจนทำให้เกิดการโหวตลงมติเลือกนั้น เป็นการแสดงความรู้สึกหรือไม่ ในทางการเมืองถือว่าไม่ผิดอะไร หากลงมติผลออกมาแพ้ก็ยอมรับก็ให้ดำเนินไปตามครรลอง
ชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับพรรคภูมิใจไทยในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐงดออกเสียงให้กับ ศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยนั้น ทุกคนพรรคภูมิใจไทยไม่มีความสุขแน่นอน หัวหน้าใครใครก็รัก ทุกวันนี้ว่าพรรคภูมิใจไทยเดินไปตามครรลองที่ควรจะเป็น โดยพรรคภูมิใจไทยโหวตให้กับรัฐมนตรีทุกคนแต่ถามว่ารู้สึกหรือไม่ก็รู้สึก ส่วนจะมีผลกับการทำงานร่วมกันในอนาคตหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐและอยู่ที่ผู้ใหญ่คุยกัน
อ่านเพิ่มเติม