นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านอภิปรายหนึ่งคน รัฐมนตรีลุกขึ้นชี้แจงทีละ 4 - 5 คน มันไม่ได้อย่างนี้จนถึงเวลาปิดประชุมสภา ฝ่ายค้านก็ยังอภิปรายไม่ครบ ต่อให้เป็นสิทธิ์ก็ต้องดูความเหมาะสม ถ้าเป็นอย่างนั้นตนไม่อภิปรายสรุปก็ปิดประชุมไม่ได้

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบว่า ตนใช้เวลาของรัฐบาล เหลือเท่าไรก็เท่านั้น ไม่เหลือก็ไม่พูด แต่ที่ต้องให้รัฐมนตรีหลายคนชี้แจงเนื่องจากจะให้เห็นว่าการทำงานมีการบูรณาการร่วมกัน ทั้งนี้นายสุทิน ลุกขึ้นมาชี้แจงว่าฝ่ายค้านกับรัฐบาลไม่ได้แบ่งเวลากัน เพราะเชื่อว่าทุกคนรู้กาลเทศะ

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายครั้งที่สมาชิกยังไม่ได้อภิปราย คณะรัฐมนตรีก็ตอบเข้ามาก่อน โดยที่ยังไม่ได้ฟังคำอภิปราย ขณะเดียวกันนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่เคยประท้วงฝ่ายค้านที่พูดครอบคลุมไปทุกฝ่ายอย่าง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

ด้าน น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส. ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ไร้น้ำยา ไร้ประสิทธิภาพ ไร้วิสัยทัศน์ คนตกงานเพิ่มขึ้น หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น มีความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนบางกลุ่มและบางตระกูล โดยเฉพาะคนที่บริจาคโต๊ะจีนในงานระดมทุนพรรคพลังประชารัฐ เจ้าสัวเหล่านี้รวมขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การขึ้นภาษีเหล้าเพื่อกีดกันการแข่งขัน 

“นายพลเกษียณแล้วแถมไม่มีความชำนาญในด้านเศรษฐกิจ แถมเพิ่งเริ่มใช้กูเกิลจะมาบริหารเศรษฐกิจดิจิทัล หรือบริหารเศรษฐกิจ ยิ่งการเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ” น.ส.สรัสนันท์ กล่าว

อีกทั้งผู้นำประเทศเองก็ไม่มีศักยภาพทางด้านเทคโนโลยี การกระทำและคำพูดของนายกรัฐมนตรีย้อนแย้งตลอดเวลา แม้ผู้ประกอบการรายย่อยทำธุรกิจอย่างยากลำบาก แหล่งทุนต้องการปล่อยเงินกู้ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ และคิดดอกเบี้ยต่ำกว่าปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ ภาษี E-Payment ใช้เพื่อกำกับคนตัวเล็กตัวน้อยที่กำลังตั้งตัว เพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ตนไม่ใช่ไม่เห็นด้วยที่จะเอาคนตัวเล็กตัวน้อยเข้าระบบ แต่เป็นเวลาที่ไม่ถูกต้อง ผลักภาระรีดเลือดจากคนตัวเล็กตัวน้อย แต่ไม่มีอำนาจต่อรองเก็บภาษีจากผู้ประกอบการรายใหญ่ 

“คนตัวใหญ่ๆ บริษัทใหญ่ๆ เข้ามาเขาเป็นบริษัทมหาชน สิ่งที่เขาต้องการอันดับแรกคือกำไร ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะที่เขาจะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทย”

“ที่น่าตลกคือนายกฯ บอกว่าเขาจะเข้ามาช่วยเราพัฒนาประเทศ เขามีพ่อมีแม่เป็นคนไทยหรอคะ ทำไมเขาต้องมาหวังดีกับเรา นี่ดิฉันกำลังจะชี้ให้เห็นว่าท่านนายกฯ และคณะรัฐมนตรีกำลังจะชักศึกเข้าบ้าน” น.ส.สรัสนันท์ กล่าวและว่า ความหวังดีที่บริษัทจากจีนแสดงออกและการนำเสนอการตั้ง Platform ในไทย นั่นเพราะเขาต้องการข้อมูลผู้บริโภคและการท่องเที่ยวต่างๆ ในไทย เพื่อผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ 

ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในไทยกำลังประสบปัญหา รัฐไทยก็อ้าแขนรับอาลีบาบา ผู้ประกอบการค้าออนไลน์รายใหญ่ของจีนเข้ามา บริษัทเหล่านี้จะเข้ามาหากำไรในไทย แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจในไทย เขามีพ่อมีแม่เป็นคนไทยหรือ จึงต้องมาหวังดีกับเรา รัฐบาลกำลังชักศึกเข้าบ้าน เท่ากับว่าตลาด E-Commerce ไทยต้องไปสู่กับกลุ่มทุนรายใหญ่ โดยอ้างว่าจะเอาสินค้าไทยไปขายที่จีน แต่ขณะเดียวกันอาลีบาบาก็ไม่ได้จีบไทยเพียงเจ้าเดียว แต่ยังมีประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ขณะเดียวกันข้าวไทย คุณภาพแย่กว่าข้าวประเทศอื่น แต่ราคาแพงกว่า แล้วจะไปสู้กับประเทศอื่นเขาได้อย่างไร Smart Digital Tourism ที่จีนจะเข้ามาตั้ง Platform ในไทย ถามว่าทำไมต้องมาตั้งในไทย เพราะคนจีนชอบมาเที่ยวไทย และส่วนใหญ่คนที่สร้างรายได้ในการท่องเที่ยวข้งอนักท่องเที่ยวจีนก็คือ บริษัททัวร์จีน แล้วถ้าตั้ง Platform การท่องเที่ยวในไทย ก็ย่อมได้ข้อมูลการท่องเที่ยวของไทยไปด้วย เราเอาเขาเข้ามาทำธุรกิจในประเทศ แต่ไม่เคยต่อรอง เอาผลประโยชน์กับคนไทยตัวเล็กตัวน้อย ไปแลกเปลี่ยนกับการอ้างว่าทุนขนาดใหญ่ของจีนจะมาลงทุนที่ไทย โดยที่ไม่ทราบว่าเขาจะกอบโกยบอะไรในไทยไปบ้าง ไม่ใช่แค่อาลีบาบา แต่ยังมีบริษัทค้าขายออนไลน์ของจีนอีกจำนวนมาที่ส่งตัวแทนบริษัทเข้ามา

และหลายบริษัทก็จะต้องล้มลงไปเพราะสู้กลุ่มทุนของจีนไม่ได้ สาเหตุที่รัฐบาลไม่ได้สนใจคนไทย อุ้มแต่เข้าสัว เพราะท่านไม่ได้มาจากพวกเขา ไม่ได้มาจากประชาชน แต่มาจากการยึดอำนาจ และเมื่อเทียบกันของสินค้าไทยก็ไม่สามารถจะสู้กับสินค้าออนไลน์ของจีนที่ต้นทุนถูกกว่าไม่ได้

ขณะเดียวกันรัฐบาลสามารถเอาเงินที่ใช้ซื้อยุทโธปกรณ์ ไปสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยไทย ทั้งที่ผู้ประกอบการไทยที่มีแต่คนเก่ง แต่ไม่เคยได้รับการสนับสุนจากรัฐบาล ตลาดออนไลน์ไทยเคยมีศักยภาพ SME ที่พยายามปรับตัวมาเป็นออนไลน์ ทั้งหมดนี้เมื่อเจอทุนใหญ่จากจีนก็สู้ไม่ได้ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความไม่รู้ ความมักง่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะเศรษฐกิจ