ไม่พบผลการค้นหา
อีกหนึ่งนักร้องอินดี้ที่น่าจับตามอง ไม้หมอน – วชิรวิทย์ จีนเกิด วัย 21 ปี นักร้องและนักแต่งเพลงอายุน้อย กับเอกลักษณ์เสียงร้องอันโดดเด่น ไม่เหมือนใคร เพื่อชีวิตรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นสร้างผลงานเพลง เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับสังคม หรือใครซักคนหนึ่ง

ไม้หมอน - วชิรวิทย์ จีนเกิด นักร้องและนักแต่งเพลงวัย 21 ปี จากสังกัดยูนิเวอร์ซัลมิวสิค เขาแจ้งเกิดจากการประกวดรายการแข่งขันร้องเพลง เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 6 ด้วยเสียงที่นุ่มลึก มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง สไตล์เพื่อชีวิต ทำให้ไม้หมอนสามารถคว้าแชมป์ประจำซีซั่นนี้มาได้ ในวัย 19 ปี ต่อมาได้สังกัดค่ายเพลง และได้มีซิงเกิลเป็นของตัวเอง

หากใครได้เจอหรือพูดคุยกับไม้หมอน จะพบว่า เขาเป็นคนพูดน้อย พูดไม่เก่ง หน้านิ่งๆ ยิ้มเบาๆ แตกต่างจากตอนที่เขาสวมวิญญาณถ่ายทอดบทเพลงบนเวทีเป็นอย่างมาก จนเหมือนกับเป็นคนละคน ไม้หมอน เผยถึงเรื่องนี้ว่า เวลาพูดจะเป็นคนพูดน้อย แต่เวลาร้องเพลงจะรู้สึกว่าต้องใส่ให้เต็มที่ ปล่อยความรู้สึกไปตามเพลง ภาพที่คิดก็คือเปรียบเทียบตัวเราเป็นเหมือนน้ำ ที่อยู่ในภาชนะ ไม่ว่าน้ำเหล่านี้จะไปอยู่ในภาชนะรูปร่างใด น้ำนี้ก็จะเป็นรูปร่าง หรือว่าทรงนั้น

ไม้หมอน

สำหรับสไตล์การร้องเพลงของไม้หมอน จะออกเป็นแนวเพื่อชีวิต หนุ่มวัย 21 ปีเล่าให้ฟังว่า คำว่าเพื่อชีวิตนี้ อาจจะเป็นแค่สไตล์การร้อง การออกเสียงเท่านั้น แต่เรื่องเจตจำนงหรือว่าอะไร ตอนนี้ยังไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเพื่อชีวิต เพราะคิดว่ายังไม่สามารถสอนใครได้ ด้วยอายุ ประสบการณ์ที่ยังไม่มากพอ เพียงแค่ตอนนี้อยากจะเล่าเรื่องผ่านเพลงมากกว่า อยากให้เพลงเป็นเพื่อนกับคนฟัง เรียกว่าเป็นเพลงเพื่อคนฟัง หรือ "เพลงเพื่อเพื่อน" มากกว่าเพลงเพื่อชีวิต

สำหรับซิงเกิลแรกของไม้หมอน คือเพลง 'หลุด' เขาบอกว่าเพลงนี้แต่งไว้ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ระดับชั้น ม.5 หลังจากนั้นพอได้มาเป็นศิลปินเพลงนี้จึงถูกนำมาทำใหม่ เนื่องจากตอนที่แต่งด้วยความที่ยังเด็กอยู่ด้วย เนื้อหาจะเป็นเกี่ยวกับความรัก เหมือนอกหักจากคนรักและรู้สึกเสียดายเขา หลังจากออกซิงเกิลแรก ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี ไม้หมอนไม่ได้ออกผลงานใหม่นานร่วมปี

จนล่าสุดตอนนี้ เขาได้ออกซิงเกิลที่ 2 ซึ่งเพลงนี้แน่นอนว่าจะมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพลงแรก ภาษา และความหมายจะดูโตขึ้นมา โดยเพลงนี้มีชื่อเพลงว่า 'คว้าชัย' ความหมายที่ต้องการจะสื่อ ไม้หมอนบอกว่าเขาอยากให้เพลงนี้มีชีวิต มีตัวตน และสามารถเป็นเพื่อนของคนฟังได้ตลอดเวลา เพราะว่าตอนนี้แต่งตอนที่รู้สึกเหนื่อย ต้องการกำลังใจ ต้องการใครซักคน เพลงนี้เลยถูกแต่งออกมาให้เป็นภาษาพูดมากที่สุด เหมือนอย่างท่อนฮุคของเพลงนี้

"ถ้าคิดว่าจะถอย ฉันยังคอยข้างๆ เสมอ หกล้มก็ไม่เป็นไรนะ พักซบไหล่ฉันได้เสมอ แล้วค่อยเดินก้าวไป แม้ถอดใจ กอดคอฉันเอาไว้พร้อมไปสู้ตาย เพื่อนเอ๋ยใส่เลย...จนถึงจุดหมาย"

ความพิเศษของเพลงนี้ไม้หมอนได้คุณแม่เป็นคนช่วยเกลาเนื้อเพลง เนื่องจากตอนแต่งเสร็จแล้วยังมีบางคำที่ความหมายกำกวม หรือว่าเข้าใจอยู่คนเดียว ซึ่งคุณแม่ก็จะมาช่วยปรับ ช่วยออกความคิดเห็น เหมือนกับทุกเพลงที่แต่งก่อนหน้านี้

เพลงเพื่อชีวิต ที่เปลี่ยนชีวิตของไม้หมอน

ไม้หมอนเล่าให้ฟังว่า เขาชื่นชอบการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่คุณย่าที่คอยร้องเพลงกล่อมนอนให้ฟัง โตมาอีกหน่อย คุณแม่ก็ชอบเปิดเพลงคาราบาวให้ฟัง แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะอยู่ในเส้นทางการเป็นศิลปิน นักร้อง เพราะตอนเด็กๆ ไม่ได้มีโอกาสเหมือนคนอื่น เมื่อชีวิตได้เดินทางมาถึงจุดนี้ถือว่าพอใจแล้ว ตั้งแต่การได้เป็นแชมป์รายการเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ แค่ตอนนั้นก็ถือว่าเปลี่ยนชีวิต จากหน้ามือเป็นหลังมือมากๆ เพราะตอนที่ชนะ ได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่งก็มอบให้แม่นำไปใช้หนี้ทั้งหมด ทั้งปลดหนี้บ้าน หนี้จากธนาคารต่างๆ ที่ส่วนหนึ่งคุณแม่กู้ยืมมาเพื่อส่งไม้หมอนเรียน

นักร้องหนุ่มอินดี้ เล่าย้อนไปถึงชีวิตตอนที่ครอบครัวยังมีภาระหน้าที่เยอะให้ฟังว่า เมื่อก่อนแม่ต้องทำงานหนักมาก เพราะนอกจากงานหลักที่ต้องสอนหนังสือเนื่องจากท่านเป็นคุณครู ยังต้องทำงานเสริมคือขายครีม ขายของอะไรต่างๆ เพื่อหาเงินให้เยอะขึ้น เนื่องจากครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวใหญ่ แต่หลังจากที่เขาได้เป็นแชมป์รายการเดอะวอยซ์เงินก้อนนั้นก็ทำให้ครอบครัวสบายขึ้น ภาระน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก แม้ตอนนี้คุณแม่ยังต้องทำงานอยู่ แต่ก็ไม่เหนื่อยเท่าเมื่อก่อนแล้ว

"เพลงบันไดสีแดงเปลี่ยนชีวิตผมจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย พอเราตื่นเช้ามาอีกวันก็กลายเป็นคนละคน คนรู้จักเยอะขึ้นเพราะว่าเพลงมันดัง ตอนนี้ในยูทูบยอดวิว 30 กว่าล้านแล้ว"

นักศึกษาคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ยังบอกอีกว่า ตอนนี้เขาส่งตัวเองเรียน แต่ถ้าเดือนไหนไม่มีงานก็ไม่มีเงิน แต่โชคดีที่อย่างน้อยก็ได้แบ่งเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตหรือว่ายามฉุกเฉิน หลังจากนี้ก็ต้องทำผลงานออกไปเรื่อยๆ เพราะถ้าดังขึ้นมางานจะได้เยอะๆ

สำหรับเป้าหมายสูงสุดในการเป็นศิลปินของไม้หมอน เขาเผยว่า อยากจะมีอัลบัมเป็นของตัวเองซักอัลบัมหนึ่ง รวมถึงได้รวมงานกับศิลปินดังๆ อย่าง พี่ตูน บอดี้สแลม หรือว่าศิลปินต่างประเทศก็ได้ ส่วนแนวทางในการทำเพลงที่ยึดถือและจะทำไปตลอด ไม้หมอนเผยว่า

“ผมแค่คิดว่าคนฟังได้อะไรจากเพลงมากกว่า คิดว่าถ้าเราแต่งเพลงนี้มาเราสร้างประโยชน์อะไรให้กับสังคมได้บ้าง ให้กับใครซักคนได้บ้าง”

ไม้หมอน