พรพล เอกอรรถพร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT เปิดเผยว่า SACICT ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้งานหัตถกรรมของไทย ยังคงมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่งานหัตถศิลป์ที่งดงามและทรงคุณค่าจากฝีมือคนไทย ที่ผ่านการพัฒนาทั้งคุณภาพ รูปแบบ และดีไซน์ จากผู้ประกอบการงานหัตถกรรมจากกลุ่มครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม นักสร้างสรรค์งานคราฟต์ ซึ่งเป็นกลุ่มสมาชิก SACICT จากทั่วประเทศ ออกสู่สายตาประชาชน ให้ได้เลือกชมและเลือกซื้อแบบใกล้ชิด
ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทำให้เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศมีการชะลอตัว รวมไปถึงอุตสาหกรรมงานศิลปหัตถกรรมไทย ที่พบว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์หัตถกรรมในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. - มิ.ย.2563) มูลค่าส่งออกรวม 1.05 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 25.27 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการชะลอตัวดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตงานหัตถกรรมทั้งที่เป็นชาวบ้านและชุมชน รวมทั้งผู้ประกอบการ
“SACICT Craft Fair 2020” เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทยร่วมสมัย จากสมาชิกทั่วประเทศไทย ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น และมีคุณภาพ นำมาจัดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เปิดโอกาสทางการค้าให้กับสมาชิก SACICT เปิดช่องทางที่จะทำให้ชีวิตคนเมืองได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทย อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความแข็งแกร่ง เป็นการพัฒนางานศิลปหัตถกรรมไทยอย่างยั่งยืน
สำหรับการจัดงานในปีนี้ “SACICT Craft Fair 2020” จะจัดต่อเนื่อง 4 ครั้ง ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ประกอบด้วย
ครั้งที่ 1 จัดขึ้น ณ บริเวณ Grand Hall The Mall บางแค ระหว่างวันที่ 6 - 12 ส.ค. 2563
ครั้งที่ 2 จัดขึ้น ณ บริเวณ Grand Hall (B) The Mall ท่าพระ ระหว่างวันที่ 14 – 18 ส.ค. 2563
ครั้งที่ 3 จัดขึ้น ณ บริเวณ Grand Hall The Mall โคราช ระหว่างวันที่ 21 – 25 ส.ค.2563 และ
ครั้งที่ 4 จัดขึ้น ณ บริเวณ Grand Hall The Mall บางกะปิ ระหว่างวันที่ 28 ส.ค. – 1 ก.ย. 2563
ภายในงาน SACICT มีการคัดสรรผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทยหลากหลายประเภท อาทิ เครื่องประดับ เครื่องจักสาน เครื่องปั้นดินเผา เครื่องหนัง ตลอดจนงานผ้าไหม และของตกแต่งบ้าน รวมร้านค้าต่างๆ รวมออกบูธกว่า 120 ร้าน และคาดหวังว่า ตลอดการจัดงาน 4 ครั้ง จะสร้างรายได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมงานศิลปหัตถกรรมไทย
ผู้อำนวยการ SACICT กล่าวเสริมว่า “ในช่วงโอกาสพิเศษและเทศกาลวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค. ที่กำลังจะมาถึง เชิญชวนให้ผู้รักและชื่นชอบงานหัตถกรรมที่มีความประณีตสวยงาม มีคุณค่าความเป็นไทย เข้ามาเลือกซื้อของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อมอบในโอกาสสำคัญที่จะมาถึงนี้”