ไม่พบผลการค้นหา
"ความสงบอาจไม่เกิด หาก 'วิกรมสิงเห' คว้าชัยนั่งตำแหน่งผู้นำ"

รัฐสภาศรีลังกาเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ก.ค.2565 ท่ามกลางสถานการณ์ความตรึงเครียดที่เริ่มลดลงหลังพลังงานเชื้อเพลิงล็อตแรกถูกลำเลียงเข้าสู่ประเทศ

สมาชิกรัฐสภาศรีลังกามีกำหนดต้องทำการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ โดยมี 'รานิล วิกรมสิงเห' ผู้มีความใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดี โกตาบายา ราชปักษา นั่งตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีจนกว่าศรีลังกาจะได้ผู้นำคนใหม่ 

วิกรมสิงเห คือบุคคลที่ผู้ประท้วงชาวศรีลังกาประกาศอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้เขามีอำนาจในรัฐบาลอีกต่อไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขาได้รับการเสนอชื่อจากพรรครัฐบาลเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายฝ่ายมองว่าความสงบอาจไม่เกิดหากเขาสามารถคว้าชัยขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จ

ขณะที่ สาชิต เปรมทาส คือผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีศรีลังกาจากฝั่งฝ่ายค้าน และ ดัลลาส อะลาฮัปเปรูมะ ส.ส.อาวุโสที่ถูกมองว่าเป็นผู้สมัครม้ามืดจากฝั่งพรรครัฐบาล

ภายนอกอาคารรัฐสภา เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยมากกว่า 100 นายพร้อมอาวุธครบมือเข้าประจำการตามท้องถนนที่มุ่งตรงไปสู่อาคารรัฐสภา พร้อมการจัดเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูงและแผงกั้นไว้สำหรับการควบคุมฝูงชน ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกส่วนถูกส่งไปเดินลาดตระเวณตามถนนใกล้เคียงแม้ไม่มีสัญญานของการรวมตัวชุมนุมก็ตาม 

ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้มีขึ้นหลังจากที่ 'โกตาบายา ราชปักษา' อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา ยอมยื่นใบลาออกผ่านทางอีเมล์ในวันที่ 14 ก.ค. หลังเดินทางจากมัลดีฟส์ถึงสิงคโปร์ โดยราชปักษาได้ทำการส่งอีเมลหนังสือลาออกกลับไปยังรัฐสภาศรีลังกา ส่งผลให้การลาออกเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ เป็นการปิดฉากการครองอำนาจของตระกูลราชปักษายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ