ไม่พบผลการค้นหา
'โมกหลวงริมน้ำ' คาร์ม๊อบ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์สื่อสารไปยังพรรคการเมือง อัด 'เพื่อไทยง เคยสัญญาไม่จับมือพรรคลุง 'ภูมิใจไทยง ที่เคยหาเสียง 'ไล่หนุตีงุเห่า' โจมตีไว้ ส่วนกระแสลบกลุ่มมวลชนก่อนหน้านี้ ขอให้สังคมตัดสินเลือกเอง ย้ำ ทำกิจกรรมเรียกร้องสิทธิ์ปราศจากความรุนแรง

13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศในช่วงบ่ายวันนี้กลุ่ม “โมกหลวงริมน้ำ” ได้รวมตัวกันที่ BTS หมอชิต เพื่อร่วมทำกิจกรรมคาร์ม็อบ “เราจะไปไล่ หนูท่อ! หมอเก๊! พ่อค้ากัญชาเถื่อน! แล้วไปดัดสันหลังเพื่อนรว๊ากส์ ที่หักเหลี่ยมกันหน้าด้านๆ” โดยโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ พร้อมด้วยมวลชนบางส่วนเริ่มมารวมตัวกัน เพื่อทำกิจกรรมคาร์ม็อบ ประกอบด้วย กลุ่มมวลชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และปิดท้ายขบวนด้วยรถโมบายล์ที่ติดตั้งเครื่องขยายเสียง เคลื่อนไปยังหน้าบริเวณที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อด้วยบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยแต่ละจุดจะทำกิจกรรมประมาณ 20 นาที และได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ทำกิจกรรมกับสถานีตำรวจในพื้นที่แล้ว

โสภณ 1 ในแกนนำกลุ่มฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มทำกิจกรรม ว่า วันนี้ต้องการสื่อสารให้พรรคการเมืองทำตามเสียงประชาชน อย่าง สว. ที่รัฐธรรมนูญเขียนว่าให้สามารถ เลือกนายกรัฐมนตรีได้นั้น แต่ สว. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่ควรโหวตสวนประชามติประชาชน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นว่ากระแสการเมืองและสังคมเปลี่ยนไปมาก ผู้มีอำนาจในพรรคการเมืองที่เคยสัญญากับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับพวกฝั่งตรงข้ามก็ไปจับมือ และจะมาบอกว่าเป็นแค่เทคนิคการหาเสียงมันทำให้เสียความรู้สึกมาก ขายนโยบายโกหกประชาชน จึงทำให้ต้องออกมาพูด

ส่วนเรื่องที่พรรคการเมืองที่เคยทำความเสียหายกับประชาชนอย่างพรรคภูมิใจไทย ก็ทำให้ประชาชนเจ็บช้ำมามาก แต่พรรคเพื่อไทยจะมาจับมือร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น “คุณไม่เห็นหัวของประชาชนหรืออย่างไร” และ “คุณยังอภิปรายไม่ไว้วางใจอนุทิน ชาญวีรกูลในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์แต่จะมาจับมือกันตั้งรัฐบาล”

สำหรับการทำกิจกรรมในวันนี้ โสภณ บอกว่า จะเดินทางเคลื่อนขบวนไปที่พรรคภูมิใจไทยก่อน เพราะเรามีความไม่ไว้วางใจอนุทิน ที่เคยสร้างความเสียหายในช่วงการแพร่ระบาด โควิด-19 และไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ ส่วนการทำกิจกรรมที่หย้าพรรคเพื่อไทย ก็เพราะเคยขายนโยบายไว้อย่างสวยหรูกับประชาชนแต่มาผิดคำพูดกับประชาชน

โสภณ บอกอีกว่า วันนี้ก็จะมีกิจกรรมไฮไลท์และเซอร์ไพร์สไปเรื่อยๆระหว่างทาง โดยจะออกแบบกิจกรรมให้มีความแปลกใหม่ ขอให้คอยติดตาม

ทั้งนี้ขอย้ำว่าตอนนี้ประชาชนถูกขโมยความฝัน โดยเราจะขึ้นปราศรัย ที่ไม่ใช่เพียงคำพูดลอยๆ แต่เป็นความเห็นในเชิงยุทธศาสตร์ว่าตอนนี้การเมืองมีปัญหาจริงๆ ซึ่งมีความไม่เห็นด้วย 

ส่วนสาเหตุที่เลือกทำกิจกรรมวันนี้ เพราะมีความสะดวกเสื่องจากช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ต้องเรียนหนังสือ และในวันนี้พรรคการเมืองต่างๆก็ปิดทำการ จึงอยากจะไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยไม่ได้ต้องการเผชิญหน้ากับบุคคลในพรรคการเมือง ทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย

สำหรับที่ประชาชนเริ่มตั้งคำถามสำหรับการชุมนุมที่อาจจะเกินขอบเขตนั้น โสภณ บอกว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองมันมีหลายแนวทาง หนึ่งคำถามมีได้หลายคำตอบทั้งหมดต้องเรียนรู้ร่วมกันไป และสังคมต้องเลือกว่าชอบแนวคิดหรือ option แบบไหน อย่างกลุ่มโมกหลวงริมน้ำล่าสุดก็ไปทำกิจกรรมแจกใบปลิวทร่ตลาดเสรีมาร์เก็ตซึ่งมีสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ดูแลตลาด ส่วนวันนี้ก็เลือกมาทำกิจกรรมกับพรรคการเมือง ที่เคยบอกว่าจะไม่จับมือกับพรรคสองลุงแน่แน่ 

ส่วนจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่นั้น โสภณ บอกว่า คำว่ายกระดับ ตอนนี้ถูกใช้กันกลาดเกลื่อน ฉะนั้นเราจะใช้องค์ความรู้สื่อสารออกไปให้สังคมเข้าใจ สิ่งนี้มีความสำคัญกว่าการยกระดับ

ส่วนการนัดชุมนุมทำกิจกรรมที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปอย่างไรบ้างนั้น โสภณ บอกว่า ตอนนี้ทุกอย่างค่อยๆ เปลี่ยนแปลง แม้ความคืบหน้าอาจจะยังไม่เห็นได้ชัด แต่ที่ผ่านมาก็คิดว่าพรรคเพื่อไทยก็ยังมีการฟังเสียงประชาชนอยู่บ้าง เห็นได้จากการจะจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองไหนก็มีการหยั่งเชิงเสียงของประชาชน พร้อมกันนี้ขอย้ำว่ากลุ่มโมกหลวงริมน้ำพยายามผลักดันในเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยการชุมนุมปราศจากความรุนแรง

ขณะที่การดูแลความเรียบร้อยในวันนี้ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ ระบุว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้มาแจ้งการชุมนุมในวันนี้แล้วว่าจะมีการจัดกิจกรรมการชุมนุมในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งตามกฎหมายสามารถทำได้ 

ซึ่งขบวนคาร์ม็อบจะออกจากบีทีเอสหมอชิตในช่วงเวลา 14.00 น. มุ่งหน้าไปยังพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย โดยจะมีรถต่างๆ ร่วมกิจกรรมราว 40 คัน คนอีกราว 100 คน ซึ่งในพื้นที่ก็มีการจัดกองกำลังของตำรวจจราจร และสายสืบของ สน.บางซื่อ กว่า 30 นาย คอยดูแลความเรียบร้อยตลอดการเดินสายของขบวนคาร์ม็อบ และตลอดช่องจราจร 2 ช่อง เบื้องต้นจากการประเมินคาดว่าจะไม่มีความรุนแรง

ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเกิดความรุนแรงหรือมีการยกระดับการชุมนุมขึ้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็มีมาตรการในการควบคุมสถานการณ์อยู่แล้ว