ที่พรรคเพื่อไทย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยครูมานิตย์ สังข์พุม ส.ส.สุรินทร์ ,จิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และ อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในหลายประเด็น ทั้งความเดือดร้อนของประชาชนจากการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลวทั้งปัญหาของใช้อุปโภค-บริโภคราคาแพงโดยไม่มีมาตราการรองรับ
โดยยกตัวอย่างพริกสดที่เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว ค่าลอตเตอรี่ที่ไม่สอดคล้องกับราคาต้นทุนจากยี่ปั๊ว เฉลี่ย 90 บาทต่อ 1 ใบจึงต้องขายเกินราคา 80 บาท และเกิดกระบวนการรับส่วยเพื่อไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่จับและปรับกว่า 2,000 บาท โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับยี่ปั๊ว เนื่องจากประชาชนไม่สามารถซื้อสลากได้โดยตรง
เช่นเดียวกับเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวแพง ตั้งแต่ราคา 44 บาทและส่วนต่อขยาย 104 บาท ซึ่งเป็นหัวใจหลักของคนกรุงเทพและเป็นการเอื้อให้กับ รฟม. ตามสัญญาสัมปทานที่จะหมดในปี 2572 ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐที่ต้องแก้ปัญหาการจราจร เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
ยุทธพงษ์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วยว่า รอบนี้รัฐบาลจะเจองานหนักแน่ และเริ่มออกอาการแล้ว ดูจากการการถอนวาระหนึ่งในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 26 มกราคม เกี่ยวกับนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลาออกไป โดยให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงไปตรวจสอบก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านในเรื่องนี้ด้วย
ยุทธพงษ์ ยืนยันด้วยว่า มีความไม่ชอบมาพากลของโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เพราะมี "เจ้าสัวโรงปูน" ให้นักการเมืองกว้านซื้อที่ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่สีเขียว ที่ใช้สำหรับเกษตรกรรม แต่ใช้เส้นสายเปลี่ยนสีผังเมืองเป็นสีม่วง ที่สามารถเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมได้ โดยอ้างว่าเป็นที่ของ ศอ.บต. แล้วเรื่องนี้จะกระทบกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะพล.อ.ประวิตร คุม ศอ.บต. นายกรัฐมนตรีและครม. จึงเต้นในเรื่องนี้
ยุทธพงษ์ ยังเรียกร้องให้กรมบัญชีกลาง แก้ไขระเบียบที่เรียกเงินคืนจากผู้สูงอายุที่ได้รับบำนาญจากญาติหรือบุตรที่รับราชการด้านความมั่นคงเป็นทหาร-ตำรวจ ที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ โดยที่เปรียบเทียบกับพล.อ.ประยุทธ,พล.อ.ประวิตรและ คสช.คนอื่นๆ ที่รับเงินเดือนหลายทางในยุค คสช.
โดยเงินเดือนหัวหน้า คสช.เท่ากับเงินเดือนนายกรัฐมนตรีและเงินเดือนรองหัวหน้า คสช.มีอัตราเท่ากับรองนายกรัฐมนตรี เป็นเงินคนละ 10 กว่าล้านบาทในช่วงครองอำนาจ ซึ่งกรมบัญชีกลางควรเรียกเก็บจากบุคคลเหล่านี้ หรือไม่ก็ขอเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์และผู้เกี่ยวข้อง นำเงินมาคืนกรมบัญชีกลาง เพื่อจะได้นำไปช่วยเหลือประชาชนหรือใช้หนี้แทนคนแก่ที่ถุกเรียกเงินคืนพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งบางคนเป็นอัมพฤกษ์ ไม่สามารถดูแลตัวเองได้
ส่วนนางสาวอรุณี แสดงความพอใจที่พรรคร่วมฝ่ายค้านผลักดันวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการใช้เขตพื้นที่ประเทศในการเลือกตั้ง ส.ส.ร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยขอให้ประชาชนจับตา วาระ 2 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ว่า ส.ว.และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะคว่ำร่างนี้หรือไม่ เพราะเห็นว่าการที่รัฐบาลขาดความโปร่งใสและไร้ประสิทธิภาพ ล้วนเกิดจากรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว
ดังนั้น การมีรัฐธรรมนูญประชาชน ผ่านการเลือกตั้ง ส.ส.ร จะเป็นทางออกให้ประเทศและช่วยคนไทยให้หลุดพ้นจากการนำพาประเทศไปสู่วิบากกรรมและหายนะได้
ชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรากฎชื่อเป็นหนึ่งในทีมวอร์รูมรัฐบาลว่า ตนได้ตอบรับเข้าร่วมเป็นทีมงานแล้ว ซึ่งทราบว่าคณะทำงานชุดนี้จะทำหน้าที่สนับสนุนข้อมูลชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน โดยมีทั้งการเก็งข้อสอบว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายประเด็นใดบ้าง และควรหาข้อมูลมาชี้แจงตอบโต้อย่างไร เพื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายสามารถชี้แจงได้ทันท่วงที โดยคณะทำงานชุดดังกล่าวจะประชุมหารือและแบ่งหน้าที่ร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล โดยคาดว่าตนน่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจรุนแรง รวมถึงมาตรการที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือประชาชนที่เห็นผลเป็นรูปธรรม
อ่านเพิ่มเติม