ไม่พบผลการค้นหา
คณะกรรมการสอบสวนของลาวระบุว่า เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยที่แตกเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2018 ไม่ได้เกิดจากเหตุสุดวิสัย แต่เป็นเรื่องของโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง

รัฐบาลลาวแถลงผลการสอบสวนกรณีเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยในแขวงอัตตะปือแตกของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนแห่งชาติของลาวร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่างๆ ระบุว่า เหตุการณ์เขื่อนแตกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 นั้นไม่ได้เกิดจากเหตุสุดวิสัยของปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่ามีการกัดเซาะของน้ำในบริเวณฐานของคันกั้นน้ำ ส่งผลให้ดินบริเวณคันกั้นน้ำอ่อนตัว และคันกั้นน้ำพังลงมาในที่สุด

รายงานของรัฐบาลระบุว่า บริเวณคันกั้นน้ำได้พบว่ามี 'รูรั่ว' ขนาดเล็กอยู่ใต้ฐานของคันกันน้ำ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณน้ำที่สะสมจากฝนตกต่อเนื่องมาหลายวันได้ไหลเข้าไปท่วมบริเวณฐานคันกั้นน้ำที่เป็นดิน ส่งผลให้ดินอ่อนตัวและคันกั้นน้ำพังทลายลงมา ทำให้น้ำปริมาณกว่าล้านลูกบาศก์ลิตรไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน กว่า 6 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิตอีกกว่า 50 คน ขณะที่ผู้สูญหายตัวเลขของทางการลาวระบุว่ามีประมาณ 90 คน แต่หน่วยงานต่างๆ ที่เข้าไปช่วยเหลือประเมินว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะมีผู้สูญหายหลายร้อยคน

รายงานของคณะกรรมาธิการสอบสวนยังระบุว่า การพังทลายของคันกั้นน้ำ D นั้นไม่ได้เป็นเหตุสุดวิสัย หรือเป็นเพราะภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากความสะเพร่าของโครงการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

เจ้าหน้าที่ของบริษัทเซเปียน-เซน้ำน้อยกล่าวว่า "สาเหตุของการพังทลายของคั้นดิน D เกิดจากฐานที่เป็นดิน แทนการใช้คอนกรีต ซึ่งดินไม่สามารถรองรับน้ำจำนวนมหาศาลได้ จึงทำให้เกิดการทรุดตัวและพังลงมา"

ทางด้านบริษัทเอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น (SK E&C) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่าจะดำเนินการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้สูญเสียจากเหตุการณ์์เขื่อนแตกและรีบดำเนินการปรับปรุงซ่อมเเซม รวมไปถึงดำเนินการสร้างเขื่อนในระยะต่อไป

โครงการก่อสร้างเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ดำเนินการโดยบริษัท ไฟฟ้า เซเปียน-เซน้ำน้อย (PNPC) ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างลาว ไทย และเกาหลีใต้ และมีบริษัทที่รับผิดชอบการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ คือ เอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น (SK E&C) บริษัทก่อสร้างรายใหญ่อันดับต้นๆ ของเกาหลีใต้ ผู้ถือหุ้นร้อยละ 26 ของ PNPC และรัฐวิสาหกิจของเกาหลีใต้ คือ บริษัท โคเรีย เวสเทิร์น เพาเวอร์ (KOWEPO) มีหุ้นใน PNPC อีกร้อยละ 25 ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 ก.ค. รัฐบาลเกาหลีใต้ ประกาศว่าจะต้องช่วยเหลือผู้ประสบภัยในลาวอย่างเร่งด่วน ในฐานะที่กลุ่มทุนของภาครัฐและเอกชนจากเกาหลีใต้มีบทบาทสำคัญในโครงการนี้

ที่มา laopost / RFA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง