ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนของพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ประกาศรับรองส.ส. 500 คน ว่า พรรคจะนัดไปรายงานตัวต่อสภาฯพร้อมกัน ส่วนจะเป็นวันใดต้องมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง และต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ทำงานเร็ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายไปวิพากย์วิจารณ์และกดดันการทำงานของ กกต. แต่สุดท้ายทำงานได้เร็วเราก็ต้องชื่นชมกกต ฃ
ธนกร ยังระบุอีกว่า การอบรม ส.ส.ใหม่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ คาดการณ์ว่าจะจัดเป็นการภายใน และอาจจะมีการจัดสัมมนาต่างจังหวัดอีกครั้ง เพื่อหารือ เนื่องจากที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยได้พูดคุยกันเลย หลายๆอย่างที่ ส.ส.รุ่นใหม่สะท้อนมาก็เป็นประโยน์
ส่วนการโหวตเลือกประธานสภาฯ จะเป็นมติออกมาเลยหรือไม่ ธนกร ระบุว่า จะออกมาในทิศทางเดียวกัน และตนเข้าใจได้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะมีการพูดคุยกันด้วย เนื่องจากมีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน ที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคก็มีการพูดคุย กับประธานยุทธศาสตร์ของพรรค
ส่วนจะมีการส่งคนลงชิงตำแหน่งประธานสภาฯหรือไม่ ธนกร กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนได้ ต้องมีการประชุมพรรคก่อน และมีความเป็นไปได้ที่จะนัดแถลงข่าวแสดงจุดยืนร่วมกัน ของพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน แต่ขณะเดียวกันก็เชื่อได้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบันจะมีการพูดคุย เพราะได้เจอกันตลอดเวลาผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรี ส่วนจะมีการแถลงร่วมกันอย่างเป็นทางการตนยังไม่มั่นใจ พร้อมกับระบุว่าตนไม่สามารถก้าวล่วงพรรคอื่นได้ว่าจะมีมติร่วมกันในการโหวตเลือกประธานสภาฯหรือไม่
เมื่อถามว่า ส.ส.ของพรรค จะมีการวางบทบาททำหน้าที่ในสภาฯอย่างไรนั้น ธนกร กล่าวว่า ส.ส.หลายคนในพรรคมีประสบการณ์ ก็จะใช้ส่วนนั้นมาเป็นประโยชน์กับ ส.ส.รุ่นใหม่ ก็คาดว่าจะมีการผสมผสานการทำงานร่วมกันทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นพรรคหลักในการรวบรวมรายชื่อสมาชิก 50 รายชื่อ เพื่อยื่นต่อประธานสภาฯเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสถานภาพการเป็น ส.ส.ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ ธนกร ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่เมื่อพิธา ถูกรับรองให้เป็น ส.ส.แล้วสถานะเปลี่ยน ก็คาดว่า กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะมีการดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนสถานะของ พิธา จะถูกเคลียร์ก่อนที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ตนไม่สามารถคาดการณ์ได้