ไม่พบผลการค้นหา
ศบค.ยังไม่ให้เปิดร้านค้าขนาดใหญ่ รวมร้านค้าในห้างฯ ชี้จัดอยู่ในเฟส 2 และ 3 ต้องรอประเมินผล 14 วัน หลังเปิดธุรกิจเฟสแรกแล้ว ชี้จะเปิดได้ต้องขออนุญาต ส่วนร้านสุกี้-ชาบู มาเป็นครอบครัวก็ต้องแยกโต๊ะ

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ระบุว่า การผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมให้สามารถดำเนินการได้แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ซึ่งระยะแรก คือ กิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงน้อยจะมีการเปิดให้ในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ส่วนกิจกรรมและกิจการบางอย่างที่มีความเสี่ยงมาก คนแออัด มีโอกาสสัมผัส เช่น คอนเสิร์ต สนามมวย รวมสนามฟุตบอลจะเก็บไว้ในระยะที่ 4  ซึ่งส่วนอื่นที่นอกเหนือจากนี้จะอยู่ในระยะที่ 2 และ 3 จะดำเนินการให้เปิดกิจการได้ก็ต่อเมื่อ หลังจากที่มีการเปิดระยะที่ 1 ไปแล้ว 14 วัน แล้วพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีนัยสำคัญ หรือเพิ่มขึ้นน้อยก็จะอนุญาตให้ทำการเปิดกิจการ หรือ กิจกรรมในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อได้

อย่างไรก็ตามในระยะที่ 2 และ 3 จะมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะเป็นกิจการในระบบปิด เช่น อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าขนาดใหญ่ ซึ่งในระยะถัดจากนี้ไปจะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐาน และจะต้องทำการขออนุญาตเข้ามาก่อน เพื่อให้ทางราชการ ท้องถิ่นพิจารณาอนุมัติ แล้วจึงจะให้คิวอาร์โค้ดไปติดที่หน้าร้านเพื่อแสดงว่าเป็นร้านค้าปลอดภัย โดยในระยะที่ 2 จะมีระบบดูแลรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น

“หัวใจสำคัญอยู่ที่ระยะที่ 1 ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และจะไประยะที่ 2 ได้ ห้างร้าน สถานประกอบการเหล่านั้นก็จะต้องมีความพร้อม ฉะนั้นบอกโจทย์ไว้เลยว่าทุกร้านจะต้องเตรียมตัว จัดห้างร้านเตรียมตัวเอาไว้สำหรับระยะที่ 2 เมื่อเหตุการณ์ระยะที่ 1 ผ่านไป ท่านมีความพร้อมและตรวจกันได้เรียบร้อยเราก็จะเข้าไปสู่ระยะที่ 2 และ 3 ต่อไป” นายทศพร กล่าว

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การผ่อนปรนระยะที่ 1 ในส่วนหาบเร่ แพงลอย ทั้งเสื้อผ้า และอาหาร หรือร้านค้าทั่วไปที่มีขนาดไม่เกิน 2 คูหา อนุญาตให้สามารถดำเนินการได้ทั้งหมด แต่ต้องทิ้งระยะห่างไม่ต่ำกว่า 1 เมตร คนขายและคนซื้อก็ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน แต่ในส่วนของร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งรวมไปถึงร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าทั้งหมดจะยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ จะต้องรอระยะต่อไป

ส่วนกรณีร้านสุกี้ หรือชาบู หากจะมีการไปรับประทานอาหารเป็นครอบครัวสามารถไม่สามารถนั่งร่วมโต๊ะกันได้ จะต้องเว้นจะต้องเว้นระยะห่าง 1 เมตรตามกติกา แยกโต๊ะ แยกหม้อ ถ้าหากเป็นไปได้ขอความร่วมมือเอากลับไปรับประทานที่บ้านเหมือนเดิมในช่วงที่ผ่อนปรนช่วงที่ 1 โดยเบื้องต้นจะจัดทำคู่มือปฏิบัติให้กับร้านค้าต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกันทั้งมาตรการหลักและมาตรการเสริม

ส่วนร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ที่มีชื่อประกาศในระยะที่ 1 นายกลินท์ ระบุว่า ที่ผ่านมายังไม่มีกติกากำหนดชัดเจน แต่ตอนนี้จะมีกติกากำหนดว่าคนใช้บริการจะต้องใส่หน้ากากอนามัย ส่วนการรอคิวชำระสินค้าจะต้องเว้นระยะห่าง 1 เมตรเป็นอย่างต่ำ ส่วนสถานที่ที่เป็นถนนคนเดินให้ผู้ประกอบการจะต้องเว้นระยะห่างเช่นกัน ถ้าไม่ปฏิบัติตามยังไม่มีโทษ