วันที่ 13 เมษายน 2567 นายพลนชชา จักรเพ็ชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายเอนกชัย เรืองรัตนากร Senior Strategist พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงานประกวด Mr.Bear International 2025 ซึ่งเป็นเวทีที่เสริมสร้างความรักและความมั่นใจในรูปร่างของตนเอง สร้างความตระหนักรู้กับสังคมถึงความหลากหลายไม่เพียงแค่ในมิติของเพศวิถี แต่รวมไปถึงความภาคภูมิใจและความเคารพในอัตลักษณ์ของแต่ละบุคคลด้วย

นายพลนชชา กล่าวว่า “พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการเคารพความหลากหลาย สิทธิเสรีภาพตามหลักการประชาธิปไตย และลดการเลือกปฏิบัติ  พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่ความเท่าเทียมให้พี่น้องคนไทยทุกเพศและทุกคน และส่งเสริมการสร้างสังคมปราศจากการ Social Bullying หรือการบูลลี่ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย หรือจิตใจของคนอื่น  พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นอย่างจริงจังว่า ความรักของคนไทยทุกคนควรจะได้รับการรับรองและมีสิทธิเท่าเทียมกันทุกคนตามกฎหมาย และควรได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียม พรรคเพื่อไทยจึงทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคประชาชนในการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมจนสำเร็จ จนทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย และเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ให้ความยอมรับการสมรสของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และมีวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง และถือเป็นประเทศที่มีความเป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQIA+”

นายพลนชชา กล่าวเสริมว่า “ผมเป็นตัวแทนขอขอบคุณภาคประชาชน พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านทุกพรรค ส่วนราชการทุกภาคส่วน  พี่น้องชาวไทยทุกท่าน ที่ร่วมกันเดินหน้าปักธงสีรุ้งในประเทศไทย ทุกท่านคือผู้ที่จะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยร่วมกัน ทําให้ทั้งโลกได้รู้ว่า ประเทศไทยคือประเทศที่เปิดรับ โอบรับ และยอมรับความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย”

“ผมจึงยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็น เวที Mr. Bear International ที่จะช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมถึงความหลากหลายในสังคม และส่งเสริมการสร้างความภูมิใจและเคารพในอัตลักษณ์ของตนเอง รวมถึงเป็นแรงผลักดันช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยด้วย” นายพลนชชา กล่าวทิ้งท้าย

ขณะเดียวกัน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้เข้าประกวดและกล่าวถึงผู้ร่วมงานผ่านคลิปวีดีโอที่ฉายภายในงานว่า “ผมยินดีอย่างมากที่สังคมไทยเปิดพื้นที่ให้กับความหลากหลาย ได้แสดงตัวตน ได้แสดงศักยภาพและความสามารถ รวมทั้งช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับความหลากหลายในสังคมของเรา ซึ่งเป็นผลดีกับประเทศ และเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผมเชื่อว่า คนทุกเพศ ความรักทุกรูปแบบ และความหลากหลายของแต่ละบุคคลในสังคมควรได้รับการโอบรับจากสังคมอย่างเท่าเทียม”