ไม่พบผลการค้นหา
'เบิร์กเชียร์แฮทาเวย์' ตัดสินใจเทขายหุ้นสายการบิน 4 แห่งที่บริษัทถืออยู่ ได้แก่ เดลตา แอร์ไลน์, เซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์, อเมริกันแอร์ไลน์กรุ๊ปอิงค์ และบริษัท ยูไนเต็ด คอนติเนนทัล โฮลดิ้ง

ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทเบิร์กเชียร์แฮทาเวย์ หรือ BRK ซึ่งมี 'วอร์เรน บัฟเฟตต์' มหาเศรษฐีอันดับที่ 4 ของโลกที่มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 23.2 ล้านล้านบาท ตามข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส ตัดสินใจเทขายหุ้นสายการบินของสหรัฐฯ ในมือทั้ง 4 แห่งทิ้งทั้งหมด

การเทขายเดลตา แอร์ไลน์, เซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์, อเมริกันแอร์ไลน์กรุ๊ปอิงค์ และบริษัท ยูไนเต็ด คอนติเนนทัล โฮลดิ้ง มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 129,000 ล้านบาท และกินสัดส่วนการขายหุ้นในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาของบริษัทในสัดส่วนเกินกว่าครึ่งหนึ่ง จากยอดรวมที่ 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 209,900 ล้านบาท 

ระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นแบบถ่ายทอดสดนั้น 'วอร์เรน' ออกมายอมรับถึงสาเหตุที่หันหลังให้กับอุตสาหกรรมการบินว่า วิกฤตในครั้งนี้บีบบังคับให้สายการบินต้องเผชิญหน้ากับวิกฤต และท้ายที่สุดโลกของการบินได้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งตนเองหวังว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นเรื่องดีกับธุรกิจ อย่างไรก็ตาม "ผมไม่รู้ว่าในอีก 3 - 4 ปี ต่อจากนี้ ผู้คนยังจะบินมากเท่าอดีตที่ผ่านมารึเปล่า"


"ปรากฏว่าผมทำพลาดไป" วอร์เรน กล่าว


วอร์เรน บัฟเฟตต์  - AFP

วอร์เรน อธิบายต่อว่า เมื่อตอนที่บริษัทยังลงทุนในสายการบินนั้น เม็ดเงินจะอยู่ที่ราว 7,000 - 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 226,000 - 258,000 ล้านบาท แต่ผลตอบแทนที่ได้คืนมาไม่ใกล้เคียงตัวเลขที่ลงทุนไปเลย ซึ่งมหาเศรษฐีอันดับที่ 4 ของโลก ยอมรับว่า ความผิดพลาดของเขาในครั้งนี้เป็นเรื่องเข้าใจได้ เพราะซีอีโอของหลายสายการบินก็ออกมายอมรับว่าวิกฤตโควิด-19 เลวร้ายที่สุดต่ออุตสาหกรรมและต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการฟื้นกลับมา 

วอร์เรน กล่าวว่า "ถ้าบริษัทจะขายอะไร บ่อยครั้งคือเราจะขายทั้งหมด เราไม่แบ่งส่วนขาย นั่นไม่ใช่วิธีดำเนินการของเรา ยกเว้นถ้าเราซื้อธุรกิจทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เราอาจจะขายลงมาเหลือ 90 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์" 

วอร์เรน ยังกล่าวต่อไปว่า "ถ้าเราชอบธุรกิจไหน เราจะซื้อมันมาให้ได้มากที่สุดและรักษาเอาไว้ให้ได้นานที่สุด แต่ถ้าเราเปลี่ยนใจเราก็จะไม่ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ" 

จากตัวเลขในเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า BRK ถือหุ้นอยู่ใน 4 บริษัทสายการบินอเมริกันด้วยสัดส่วนดังนี้ (1) เดลตา แอร์ไลน์ ถือหุ้นร้อยละ 9.2 เป็นมูลค่า 58.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,902 ล้านบาท (2) อเมริกันแอร์ไลน์กรุ๊ปอิงค์ ถือหุ้นร้อยละ 10 เป็นมูลค่า 42.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,372 ล้านบาท (3) เซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์ ถือหุ้นร้อยละ10.1 เป็นมูลค่า 51.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,656 ล้านบาท และ (4) ยูไนเต็ด คอนติเนนทัล โฮลดิ้ง ถือหุ้นร้อยละ 7.6 เป็นมูลค่า 21.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 707 ล้านบาท โดยตั้งแต่ตั้งปีเป็นต้นมา หุ้นของทั้ง 4 บริษัทตกลงกว่าร้อยละ 58.7, 62.9, 45.8 และ 69.7 ตามลำดับ

ล่าสุด BRK เปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิในไตรมาส 1/2563 ทั้งสิ้น 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท โดยปัจจัยบั่นทอนหลักมาจากสถานการณ์ของตลาดที่โดนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

อ้างอิง; Bloomberg, FT, CNBC