สื่อแอฟริกัน รายงานว่า นายปริสคาห์ มูพูมิรา รัฐมนตรีการท่องเที่ยวของซิบบับเว กล่าวว่า ภายใน 6 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานจัดการดูแลสัตว์ป่าและอุทยานซิมบับเวส่งออกช้างแอฟริกา จำนวน 97 ตัว มูลค่ากว่า 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ 2 ประเทศ ได้แก่ จีนและดูไบ ในช่วงระหว่างปี 2012 -1 มกราคม 2018 โดยช้างจำนวน 93 ตัว ถูกส่งไปยังประเทศจีน และอีก 4 ตัว ถูกส่งไปยังดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทั้งนี้ช้างที่ส่งออกไปนั้นจะอยุ่ในช่วงอายุ 2-3 ปี โดยมีราคาขายตกตัวละ 13,500 - 41,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินที่ได้จากการขายช้างนี้ จะนำไปเข้ากองทุนเพื่อการจัดการและอุทยานแห่งชาติของซิมบับเว
ทางด้านเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานจัดการดูแลสัตว์ป่าและอุทยานซิมบับเวกล่าวว่า "การขายช้างเกิดขึ้นเนื่องจาก ทางหน่วยงานต้องการจัดการจำนวนประชากรของช่้าง รวมไปถึงการปกป้องประชาชนจากการถูกช้างจู่โจมและทำร้าย รวมไปถึงการถูกช้างฆ่าตาย ดังนั้นนโยบายดังกล่าวนี้จึงเป็นนโยบาบที่ยั่งยืนในการช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีเงินซื้อยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกสัตว์ทำร้าย"
รัฐมนตรีท่องเที่ยวของซิมบับเวยังกล่าวว่า การส่งออกช้างนั้นเป็นหนึ่งในการอนุรักษ์ช้างของซิมบับเว ซึ่งปัจจุบันประเทศซิมบับเวสามารถรองรับช้างได้เพียง 55,000 ตัว เท่านั้น ขณะที่จำนวนของช้างในประเทศนั้นมีสูงถึง 85,000 ตัว นอกจากนี้ทางรัฐบาลซิมบับเว กำลังผลักดันให้ยกเลิกกฎหมายการค้างาช้างตามสัญญาการค้าระหว่างประเทศ
"เรากำลังนั่งอยู่บนงาช้างที่มีมูลค่าถึง 300 ล้านดอลลาหร์สหรัฐฯ ซึ่งจะขายเพื่อนำเงินเข้ากองทุนโครงการอนุรักษ์และยังเป์นประโยชน์ต่อชุมชนที่อยู่อาศัยของพื้นที่สัตว์ป่า"
ซิมบับเวเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรช้างอาศัยอยู่มากที่สุดในทวีปแอฟริกา รองจากบอตสวานา นอกจากนี้ยังมีประเทศนามิเบียและเเซมเบียก็เป็นประเทศที่มีช้างอาศัยอยู่มาที่สุดเช่นกัน และประเทศเหล่านี้กำลังผลักดันการยกเลิกการค้างานช้างตามกฎหมายของ CITES
เมื่อปี 2015 รัฐบาลซิมบับเว ระบุว่า การค้าสัตว์ป่าเกิดขึ้นเพื่อป้องการสัตว์ถูกทำร้าย เนื่องจากจำนวนที่มาเกินไปของประชากรสัตว์ป่านั้นอาจถูกทำร้ายจะผู้อยู่อาศัยและเกษตรกรในพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะช้างที่มักจะเข้าไปทำลายไร่นาของเกษตรกร
ที่มา CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง