วันนี้ ( 28 เมษายน 2568) ดร. นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 2/2568 เพื่อหารือแผนการขับเคลื่อนการจัดเทศกาลดิวาลีในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้ โดยมี นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ H.E. Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม
เทศกาลดิวาลี ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวอินเดีย จะได้รับการยกระดับสู่ “เทศกาลระดับโลก” ด้วยการผสานกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการจัดงาน “Global Fair” เทศกาลช้อปปิ้งมงคล (auspicious shopping festival) การแสดงแสง สี เสียง การแสดงดนตรีอินเดีย และการตกแต่งสถานที่สำคัญหลายจุดในกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างบรรยากาศเฉลิมฉลอง พร้อมกับเดินหน้าประชาสัมพันธ์เข้มข้นในตลาดอินเดียผ่านออนไลน์และสื่อมวลชน เพื่อขยายการรับรู้ให้ครอบคลุมทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศอินเดียและชาวอินเดียโพ้นทะเลกว่า 35.42 ล้านคน ทั่วโลก
แผนงานในปีนี้มุ่งทำตลาดเชิงรุก โดยเน้นเจาะกลุ่มนักเดินทางอินเดียรุ่นใหม่ กลุ่มคู่แต่งงาน กลุ่มนักท่องเที่ยวหญิงเดี่ยว (solo lady travelers) และกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อการเฉลิมฉลอง เช่น incentive groups และกลุ่มครอบครัว พร้อมผลักดันมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง เช่น การเพิ่มเที่ยวบินตรง และการจัดแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบครบวงจร นอกจากนี้ ยังจะมีการหารือกับภาคเอกชนอินเดียเพื่อร่วมสนับสนุนกิจกรรม และประสานงานกับรัฐบาลอินเดียเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์เทศกาลดิวาลีในไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อยกระดับการรับรู้ในตลาดอินเดียอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
ดร. นลินี กล่าวว่า การจัดเทศกาลดิวาลีครั้งนี้ถือเป็นโอกาสทองในการใช้พลัง Soft Power ของไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์ประชาชนต่อประชาชนระหว่างไทย–อินเดีย ผ่านมิติการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการจับจ่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ที่นักท่องเที่ยวอินเดียให้ความนิยมสูง เช่น อัญมณี เครื่องประดับ แฟชั่น และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม
นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อยกระดับเทศกาลวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลกอย่างเป็นรูปธรรม
H.E. Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวยืนยันการสนับสนุนการเชิญศิลปิน และคณะวัฒนธรรมอินเดียเข้าร่วมงาน เพื่อเสริมบรรยากาศเฉลิมฉลองให้มีความยิ่งใหญ่และเข้าถึงจิตวิญญาณของเทศกาลดิวาลีอย่างแท้จริง พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าเทศกาลนี้จะมีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ไทย–อินเดียทั้งในมิติประชาชนและเศรษฐกิจในระยะยาว
ดร. นลินี ทิ้งท้ายว่า ข้อมูลจากการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ระบุว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียมากกว่า 2.1 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 72,000 ล้านบาท และแนวโน้มปี 2568 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.35 ล้านคน หรือเติบโตกว่า 14.26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ด้วยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 36,704 บาทต่อทริป และระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 6.6 วันต่อทริป สะท้อนศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่านภาคการท่องเที่ยว