เฟซบุ๊กจดสิทธิบัตร เดาโลเคชันผู้ใช้งานล่วงหน้า
การเปิดโลเคชันบนสมาร์ตโฟน ทำให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ รู้ว่าผู้ใช้งานกำลังอยู่ที่ไหน แต่ในอนาคต ถึงแม้ว่าผู้ใช้จะปิดจีพีเอส แต่แอปฯ บางรายก็ยังจะรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน เพราะล่าสุด เฟซบุ๊กเพิ่งจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีคาดเดาโลเคชันล่วงหน้าแล้ว
ระบบโลเคชันที่แสดงตำแหน่งว่าผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนกำลังอยู่ที่ไหน มีความสำคัญอย่างมากสำหรับเฟซบุ๊ก ในการยิงโฆษณาต่าง ๆ บนเฟซบุ๊กให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งตราบใดที่ผู้ใช้งานยังคงสถานะออนไลน์และเปิดโลเคชัน เฟซบุ๊กจะสามารถรู้ได้ตลอดเวลาว่าผู้ใช้งานกำลังอยู่ที่ไหน และกำลังใช้บริการอะไรอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเฟซบุ๊กจะยังคงไม่พอใจเพียงเท่านี้ เพราะล่าสุด มีรายงานว่าเฟซบุ๊กได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีที่เรียกว่า Offline Trajectories ที่จะทำให้เฟซบุ๊กสามารถคาดเดาตำแหน่งของผู้ใช้งานล่วงหน้าได้ แม้ว่าผู้ใช้งานจะปิดสมาร์ตโฟน หรือปิดจีพีเอส
เฟซบุ๊กอธิบายว่า ระบบนี้จะใช้เทคโนโลยี Machine Learning วิเคราะห์ข้อมูลที่ผ่านมาในอดีต ร่วมกับตำแหน่งที่ผู้ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงวิเคราะห์จากพฤติกรรมของผู้ใช้คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งจะทำให้ระบบสามารถคาดเดาสถานที่ที่ผู้ใช้งานกำลังจะเดินทางไปในอนาคต ทำให้เฟซบุ๊กยังคงสามารถยิงโฆษณาที่เหมาะสมมายังผู้ใช้งานได้ แม้ว่าผู้ใช้งานจะปิดจีพีเอส
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่นี้ แต่ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะถูกนำมาใช้จริงหรือไม่ เนื่องจากเฟซบุ๊กอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานมากเกินไป
เฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์เพิ่มลูกเล่นให้กล้อง
เฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ แอปพลิเคชันส่งข้อความของเฟซบุ๊กอัปเดตฟีเจอร์ของกล้องถ่ายรูปครั้งใหญ่ ด้วยการเพิ่มความสามารถให้กล้องมีโหมด portrait ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ถ่ายภาพเซลฟี และทำให้ฉากหลังเบลอได้ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอลูปแบบ บูมเมอแรง ในอินสตาแกรมได้ด้วย และยังเพิ่มสติ๊กเกอร์ AR ชุดใหม่ ให้ผู้ใช้งานได้ตกแต่งภาพหรือวิดีโอก่อนส่งให้คนอื่น
เฟซบุ๊กได้ทำการอัปเดตกล้องถ่ายรูปของเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ให้กับผู้ใช้งานทั่วโลกแล้ว แม้จะเป็นผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ เวอร์ชันเก่า ก็ได้รับการอัปเดตด้วย และยังเปิดเผยตัวเลขสถิติที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ ว่ามีคนใช้กล้องถ่ายรูปมากกว่า 20 ล้านครั้งในแต่ละวัน และมีการส่งสติกเกอร์หากันมากกว่า 440 ล้านครั้งต่อวัน