หุ้นของบริษัทอินเทลร่วงทันที 9 เปอร์เซ็นต์ หลังจากมีการรายงานออกมาว่าบริษัทแอปเปิลอาจจะยกเลิกการสั่งซื้อ CPU จากอินเทลทั้งหมดภายในปี 2020
นักลงทุนแสดงความกังวลอย่างชัดเจนว่าบริษัทอินเทล ผู้ผลิต CPU รายใหญ่ของโลก จะสามารถเอาตัวรอดได้หรือไม่ในอนาคตหลังจากมีการรายงานของเว็บไซต์ต่างประเทศอย่าง CNN และ Bloomberg
โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าววงในซึ่งระบุว่าบริษัทแอปเปิล ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก อาจจะทำการยกเลิกการสั่งซื้อ CPU จาก Intel ทั้งหมดและมีกำหนดเวลาที่จะยกเลิกการสั่งซื้อดังกล่าวภายในปี 2020 หรืออีกเพียง 2 ปีข้างหน้าหลังจากนี้เท่านั้น
ก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าทาง Apple กำลังซุ่มพัฒนาโปรเจคที่มีชื่อว่า “Kalamata” เพื่อเป็นการพัฒนาชิปเพื่อให้ Mac, iPhone และ iPads ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ โดยการออกแบบชิป A-series เพื่อนำมาใช้กับ Mac
ส่วนชิปใหม่นั้นยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา เพื่อนำมาทดแทนชิปของ Intel ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน เริ่มต้นจาก “Marzipan” ที่จะมาพร้อมกับ iOS 12และmacOS 10.14 ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำแอปเดียวแต่ใช้งานได้ทั้งบน iOS และ macOS
การเปิดเผยดังกล่าวส่งผลกระทบกับมูลค่าหุ้นของบริษัทอินเทลอย่างหนัก โดยมูลค่าหุ้นของอินเทลลดลงไปทันทีสูงสุดถึง 8% ระหว่างวันก่อนจะดีตัวกลับมาอยู่ที่ 9% เมื่อช่วงเวลาการปิดตลาดเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐฯ
ในช่วงปี 2006 นายพอล โอเทลลินี ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของอินเทลอยู่ในขณะนั้นได้จับมือกับนายสตีฟ จ็อบส์ อดีตผู้นำของแอปเปิล ในการทำธุรกิจร่วมกันของทั้งสองแบรนด์ จนทำให้แอปเปิลกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของอินเทลเสมอมา ซึ่งรายได้หลักของอินเทลเองมาจากการผลิต CPU ให้กับคอมพิวเตอร์ยี่ห้อต่างๆ
ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการปรับตัวของแอปเปิลที่ต้องการจะใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ในการปรับให้อุปกรณ์ของแอปเปิลทุกชนิดสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้รอยต่อด้วย CPU ของแอปเปิลเองทั้งหมด โดยปัจจุบัน iPhone, iPad, Apple TV และ Apple Watch นั้นล้วนแต่ใช้ CPU ที่แอปเปิลผลิตเองทั้งสิ้นยกเว้นคอมพิวเตอร์ของแอปเปิลหรือ Mac ที่เป็นระบบแม็คอินทอชซึ่งยังคงใช้ CPU ของอินเทลตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา
CPU คืออุปกรณ์ชิ้นที่มีหน้าที่สำคัญที่สุดในการประมวลผลให้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือการทำหน้าที่เป็นสมองของคอมพิวเตอร์นั่นเอง โดยข้อมูลจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2017 ที่ผ่านมาชี้ว่าคอมพิวเตอร์ของแอปเปิลที่ยังใช้งาน CPU จากอินเทลอยู่นั้นคิดเป็น 7% ของสัดส่วนการตลาดของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในปัจจุบัน ฉะนั้นความเป็นไปได้ในการผลิต CPU ขึ้นเองของแอปเปิลจึงจะส่งผลเสียต่อสเถียรภาพของบริษัทอินเทลอย่างรุนแรง
การที่ Apple หันมาทำชิปเองนั้นจะทำให้กระบวนการทำงานต่างๆเร็วขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัวรุ่นใหม่ได้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอชิปใหม่ของอินเทลเปิดตัวก่อน การใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆก็ทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิมทั้งในด้านของฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ รวมถึงระบบจัดการพลังงานก็ช่วยให้ประหยัดแบตมากขึ้น
ที่สำคัญ Geekbench เคยเทียบชิป หรือ CPU ของ iPhoneX กับ Mac ปี 2017 ปรากฎว่ามีประสิทธิภาพการทำงานใกล้เคียงกันมาก
การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้��นี้จะส่งผลให้แอปเปิ้ลกลายเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อปรายเดียวที่พัฒนาชิปด้วยตัวเอง ในขณะที่ผู้ผลิตรายใหญ่ๆอย่างDell, HP Inc., Lenovo หรือ Asus ต่างก็ใช้ชิปของอินเทลกันทั้งนั้น