ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - Facebook โฉมใหม่ เน้นความเป็นส่วนตัว - Short Clip
World Trend - Galaxy S10 สแกนนิ้วไม่ได้ หากหน้าจอแตก - Short Clip
วีอาร์จะเปลี่ยนการทำธุรกิจยุคใหม่
World Trend - เกม 'โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ' เผยตัวอย่างใหม่น่าตื่นตา - Short Clip
นักพัฒนาบอยคอด Oculus หลังผู้บริหารบริจาคเงินให้ทรัมป์
World Trend - เกาหลีออกกฎควบคุมอุปกรณ์แพทย์ VR และ AR - Short Clip
World Trend - เปิดตัวแอปฯ ดูข่าว CNN แบบ VR ผ่าน Oculus Rift - Short Clip
World Trend - Techsauce จัดงานเทคโนโลยีใหญ่สุดในอาเซียน - Short Clip
World Trend - 'มาร์ก' และ 'อีลอน' สองขั้วแห่งโลกเทคโนโลยี - Short Clip
World Trend - 'ลา ลีกา' สู่การเป็นลีกฟุตบอลแห่งเทคโนโลยี - Short Clip
World Trend - ‘Operation You’ หนังสือ VR ซีรีส์แรกของโลก - Short Clip
World Trend - ปากกา Galaxy Note รุ่นใหม่อาจมีกล้องในตัว - Short Clip
World Trend - เฟซบุ๊กเผชิญปัญหาผู้ใช้งานลดและรายได้ต่ำกว่าเป้า - Short Clip
World Trend - ชาวเกาหลีใต้ใช้เครือข่าย 5G แล้ว 260,000 คน - Short Clip
World Trend - ‘เฟซบุ๊ก’ เตรียมเปิดให้บริการหาคู่ - Short Clip
World Trend - ​Telegram มีผู้ใช้งานเพิ่ม 3 ล้านบัญชี หลัง Facebook ล่ม - Short Clip
World Trend - ไมโครซอฟท์ไม่มีแผนรองรับวีอาร์บน Xbox  - Short Clip
World Trend - FBI, CIA, NSA เตือนคนอเมริกันอย่าใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ย - Short Clip
World Trend - จีนเปิดตัวสวนสนุก VR เต็มรูปแบบแห่งแรกของโลก - Short Clip
World Trend - eBay เพิ่มฟีเจอร์ AR เลือกขนาดกล่อง - Short Clip
World Trend - เฟซบุ๊กเตรียมสร้างอวตารผู้ใช้งานเสมือนจริงแบบเต็มตัว - Short Clip
May 4, 2019 23:58

เฟซบุ๊กกำลังเร่งพัฒนาร่างอวตารของผู้ใช้งานซึ่งเป็นรูปแบบเสมือนจริงแบบเต็มตัว ซึ่งจะมีความคล้ายเจ้าของอวตารมากที่สุด หวังผลักดันเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อมอบประสบการณ์ร่วมให้กับผู้ใช้งานมากที่สุด

ผู้พัฒนาแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ๋อย่างเฟซบุ๊กเปิดเผยในงานประชุมนักพัฒนาประจำปี หรือ F8 ว่าขณะนี้ทางเฟซบุ๊กกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโลกสเมือน หรือ AR ด้วยการสร้างตัวอวตารให้กับผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก โดยมีความพิเศษอยู่ที่ตัวอวตารนี้จะเป็นรูปแบบของอวตารเต็มตัว ไม่ใช้แค่ส่วนใบหน้าหรือส่วนหัวแบบที่เราเคยได้เห็นกัน และที่สำคัญจะมีความละเอียดอย่างมาก ตั้งแต่การออกแบบโครงกระดูก เรื่อยไปจนถึงการสร้างเลเยอร์ที่เป็นชั้นกล้ามเนื้อและผิวหนังอีกด้วย

นอกจากการพัฒนาด้านความละเอียดของร่างการของอวตารแล้ว เฟซบุ๊กยังลงรายละเอียดลึกถึงการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่มีความเหมือนจริงๆมากที่สุดอีกด้วย โดยระบบ AR จะทำการเรียนรู้ลักษณะของเสื้อผ้าจริงที่คนสวมใส่ ไปจนถึงลักษณะของการเคลื่อนไหวต่างๆที่จะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพความเป็นอยู่ เช่นเสื้อผ้าที่ถูกสวมใส่ในขณะยืน เดิน นั่ง เต้น หรือการยืนตัว และการเคลื่อนไหวในสถานที่ที่มีลม และไม่มีลม เป็นต้น 

ในโลกแห่งเทคโนโลยี AR ในปัจจุบันจะพบว่าการพัฒนาอวตารโลกเสมือนนั้นยังมีข้อจำกัดอยู่มาก ส่วนใหญ่แล้วลักษณะของอวหารที่มีให้เห็นในท้องตลาดจะโฟกัสที่ส่วนหัวของร่างอวตาร หากโชคดีขึ้นมาหน่อยก็จะครอบคลุมไปถึงส่วนแขนและมือด้วย ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอวัยวะกลุ่มนี้สามารถที่จะถูกตรวจจับจากอุปกรณ์ AR ได้ง่าย โดยการใช้อุปกรณ์หลัก เช่น Oculus Quest VR Headset และ Controller จากเฟซบุ๊ก

โรนัลด์ มัลเล็ต นักวิจัยของ Oculus ได้แชร์ภาพตัวอย่างให้ผู้ร่วมงาน F8 ได้รับชมความน่าตื่นเต้นของตัวต้นแบบอวตารแห่งอนาคต ซึ่งเขาเรียกมันว่าเป็นอวตารแบบ Hyper-realistic VR โดยภาพที่ทุกคนได้ชมร่วมกันนั้นเป็นภาพของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังสวมอุปกรณ์ Oculus อยู่ โดยภาพเสมือนจริงที่ทั้งสองคนมองเห็นในตัวอุปกรณ์ก็คือร่างอวตารของพวกเขาเอง โดยเป็นร่างอวตารแบบสามมิติที่มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงอย่างมาก ตั้งแต่รูปร่างหน้าตา ไปจนถึงเสื้อและกางเกงที่พวกเขาสวมใส่อยู่ และกำลังเล่นฟุตบอลกันอย่างสนุกสนาน 

มัลเล็ตชี้ว่าร่างอวตารรูปแบบเต็มตัวหัวจรดเท้าที่เสมือนจริงเช่นนี้ยังต้องใช้เวลาอีกมากในการพัฒนา และหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของทีมผู้สร้างก็คือในปัจจุบันนั้นผู้บริโภคยังไม่สามารถหาซื้ออุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงพอในการตรวจจับความเคลื่อนไหวของร่างกายและสร้างร่างอวตารของพวกเขาเองเช่นนี้ได้ตามท้องตลาดทั่วไป เพราะถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ขั้นสูงที่ยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองและพัฒนาเท่านั้น 

มากไปกว่านั้นก็คือ เฟซบุ๊กจำเป็นจะต้องหาวิธีที่จะยืนยันกับผู้ใช้งานให้ได้ว่าจะมีวิธีการอย่างไรในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ที่จะถูกถ่ายทอดออกมาอยู่ในลักษณะของร่างอวตารที่มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงขนาดนี้ ซึ่งในประเด็นนี้มัลเล็ตกล่าวว่าเฟซบุ๊กอาจพัฒนาระบบให้ครอบคลุมถึงการยืนยันตัวตนเพื่อใช้งานร่างอวตารด้วยการสแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือก็เป็นได้ ซึ่งยังไม่มีอะไรแน่นอนในขณะนี้ และเฟซบุ๊กอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการพัฒนาเพื่อให้เกิดความสเถียรและความปลอดภัยสูงสุด

การประกาศครั้งนี้เป็นเพียงข้อมูลการอัปเดตล่าสุดเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กก็เคยพูดถึงเรื่องการพัฒนาร่างอวตารเสมือนจริงแบบเต็มตัวลักษณะสามมิตินี้ไปแล้วในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการเปิดเผยว่าร่างอวตารดังกล่าวจะมีความสามารถในการแสดงออกทางสีหน้าแบบทันทีทันใดได้อีกด้วย และการเปิดเผยข้อมูลครั้งล่าสุดในงานประชุม F8 นี้ก็มีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่เฟซบุ๊กออกมาประกาศว่า อุปกรณ์สวมศีรษะ VR รุ่น Quest และ Rift S จะเริ่มถูกส่งออกไปถึงมือผู้บริโภคในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้แล้ว 

ทั้งนี้ งาน F8 Developer Conference ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของเฟซบุ๊กที่จัดขึ้นเพื่อเปิดตัวบริการใหม่ๆในแต่ละปี ซึ่งในปีนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยังได้ขึ้นมาประกาศอีกด้วยว่าเฟซบุ๊กจะมีการปรับโฉมรูปแบบใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเว็บไซต์ที่ใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแอปพลิเคชันที่ใช้งานบนสมาร์ตโฟน โดยดีไซน์เฟซบุ๊กรูปแบบใหม่ ซึ่งนับเป็นเวอร์ชันที่ 5 จะปรับพื้นฉากหลังให้เป็นสีขาวทั้งหมด และจะเหลือสีฟ้าไว้เพียงแค่ตัวอักษรและโลโก้ของเฟซบุ๊ก แต่หากใครไม่ชอบพื้นหลังที่เป็นสีขาว ก็สามารถเลือก Dark Mode เพื่อเปลี่ยนฉากหลังเป็นสีดำได้ นอกจากนี้ยังปรับกรอบโลโก้จากสี่เหลี่ยมเป็นวงกลมด้วย

ซักเคอร์เบิร์กยังบอกอีกดวยว่าเฟซบุ๊กรูปแบบใหม่ มีการออกแบบการใช้งานที่เน้นความเป็นส่วนตัวและปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งานมากขึ้น ด้วยการเพิ่มพื้นที่แสดงความคิดเห็น ส่งเสริมการเชื่อมต่อแบบกลุ่มแชร์ข้อมูลจากกรุ๊ปได้ง่ายขึ้น รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง การโพสต์แบบไม่ระบุตัวตนสำหรับประเด็นที่ต้องมีการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน เช่น ข้อมูลด้านสุขภาพ 

นอกจากนี้ Facebook Dating ก็มีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Secret Crush ให้ผู้ใช้งานเลือกคนที่แอบชอบจากรายชื่อเพื่อนได้ 9 คน และหากมีใครใน 9 คนนี้ ที่แอบชอบเราเหมือนกัน เฟซบุ๊กก็จะแจ้งและเชื่อมต่อให้ได้พูดคุยกัน ซึ่งน่าจะเป็นฟีเจอร์ที่ถูกใจคนโสด ขี้อาย หลาย ๆ คนได้เป็นอย่างดี โดยเฟซบุ๊กโฉมใหม่ได้เริ่มเปิดให้ใช้งานในสหรัฐฯแล้ว และจะทยอยเปิดให้ใช้งานในประเทศอื่นๆเร็วๆนี้ ซึ่งน่าจะครอบคลุมผู้ใช้งานทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ส่วนการปรับเปลี่ยนแอปพลิเคชันในเครือเฟซบุ๊กนั้นประกอบไปด้วยการปรับเปลี่ยนหน้าตาให้บนหน้านิวส์ฟีดมีโพสต์จากกลุ่มต่างๆมากขึ้น ข้อความที่ส่งผ่านแอปพลิเคชัน Messenger จะตั้งค่าพื้นฐานให้มีการป้องกันด้วยเอ็นคริปต์ หมายความว่า เฟซบุ๊กจะไม่สามารถอ่านเนื้อหาที่ผู้ใช้คุยกันได้ และแอปฯ นี้จะรวมเข้ากับ WhatsApp จะมีวิธีแชร์เนื้อหา "อายุสั้น" ในบริการส่งข้อความ หมายความว่า เนื้อหาดังกล่าวจะไม่ถูกบันทึกอยู่ในบทสนทนาแบบถาวร ในปีนี้ WhatsApp จะเปิดบริการจ่ายเงินในหลายประเทศ หลังเปิดทดลองใช้ในอินเดียไปแล้วก่อนหน้านี้

รวมไปถึงการโพสต์อินสตาแกรมไม่จำเป็นต้องเลือกภาพหรือวิดีโอขึ้นมาก็ได้ แต่สามารถโพสต์ข้อความ สติกเกอร์หรือภาพวาดได้ และอินสตาแกรมจะทดลองฟีเจอร์การนับยอดไลก์แบบส่วนตัว ซึ่งจะซ่อนไม่ให้คนอื่นนอกจากเจ้าของบัญชีเห็นยอดไลก์ เพื่อให้คนให้ความสำคัญกับยอดไลก์น้อยลง หลังถูกวิจารณ์ว่า ยอดไลก์บนอินสตาแกรมทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจในตัวเอง

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog