รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 20 มีนาคม 2563
‘อ.วิโรจน์’ ถึงกับถามว่า ‘ห๊ะ อะไรนะ!?’ หลังตำรวจแถลงจับผู้ค้ากักตุนและขายหน้ากากอนามัยเกินราคา 3 ราย 57 ชิ้น ด้าน ‘อ.พิชญ์’ แนะนำถ้าถึงขนาดสืบเจอว่าใครขายเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้ พวกรายใหญ่ที่เป็นข่าวโครมๆ มองกันไม่เห็นเลยหรือ สงสัยปม ‘เสี่ยบอย’ อมหน้ากากไปถึงไหนแล้ว แถมยังมีกรณี ‘มัลลิกา’ มาเพิ่มอีก
พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงผลการจับกุมผู้กระทำผิดกักตุนและจำหน่ายสินค้าหน้ากากอนามัยเกินราคา ว่า ล่าสุดสามารถจับกุมได้อีกจำนวน 3 ราย ของกลาง 57 ชิ้น ส่วนเมื่อวันที่19 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการส่งฟ้องผู้ต้องหาที่กระทำผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาหลายราย โดยศาลได้พิพากษาลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นการลงโทษสถานหนักจำคุกโดยไม่รอลงอาญา และริบของกลาง จึงขอย้ำถึงพ่อค้าแม่ค้าทุกคน ที่ฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนว่า ในสถานการณ์แบบนี้ตำรวจจะร่วมมือกับกรมการค้าภายใน มีมาตรการเข้มข้นในการกวาดล้างจับกุม และไม่มีการลดหย่อนโทษแต่อย่างใด
โดยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นพิพากษาไม่รอลงอาญา ผู้ต้องหา 5 ราย ที่ครอบครองหน้ากากอนามัยและจำหน่ายเกินราคา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลางทันที หลังมีคำตัดสิน
โดยรายแรก ครอบครองและประกาศขายเกินราคา จำนวน 4,000 ชิ้น ถูกสั่ง 1 ปี 6 เดือน รายที่ 2 ครอบครองจำนวน 750 ชิ้น จำคุก 1 ปี ส่วนรายที่ 3-5 ครอบครอง 125-150 ชิ้น จำคุกรายละ 6 เดือน
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงเหตุผลกรณีทำหนังสือยื่นต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการบริหารพรรค ให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวน สมาชิกพรรคที่ถูกข้อกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย และขอให้สมาชิกพรรคผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลาออกว่า เป็นข้อปฏิบัติของพรรคที่ทำสืบต่อกันมา เมื่อมีสมาชิกพรรคผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถูกข้อกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต บุคคลนั้นก็จะลาออกจากตำแหน่งทันทีหลังถูกกล่าวหา
แต่กรณีของนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ถูกข้อกล่าวหามาเป็นเวลาเกิน 7 วันแล้ว ยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการใดๆจากพรรค จึงได้ทำหนังสือเพื่อเร่งรัดให้มีการสอบสวน เพื่อไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จนเกิดความเสียหาย อีกทั้งการลาออกจากตำแหน่งระหว่างการสอบข้อเท็จเป็นเรื่องที่สง่างาม เมื่อสอบข้อเท็จจริงแล้วไม่พบความผิด สามารถเข้ากลับมารับตำแหน่งเดิมได้อีก
นายเทพไท ยังชี้แจ้งด้วยว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งกับนางมัลลิกา ไม่มีความอิจฉาริษยา หรือทำไปเพื่อหวังผลทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถ้าหากนางมัลลิกา ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีตนเองก็ไม่มีสิทธิ์ เข้าไปรับตำแหน่งดังกล่าวแทน จะกล่าวหาว่าไปผลักไสไล่ส่ง เพื่อนร่วมพรรคก็ไม่เป็นความจริง เพราะต้องยึดหลักการของพรรคมากกว่าตัวบุคคล และยืนยันไม่ได้รับงานใครมาเล่นงานนางมัลลิกา
ด้านนายราเมศ รัตนชะเวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงความคืบหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีการกล่าวหาสมาชิกพรรคมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนและการส่งออกหน้ากากอนามัย ว่า จะมีการประชุมครั้งแรก ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ส่วนการที่คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องไปชี้แจง ทางพรรคยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กับฝ่ายนิติบัญญัติในการดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้