บริษัทยานยนต์มุ่งพัฒนาศักยภาพด้วยเทคโนโลยี 'โฮโลเลนส์' อุปกรณ์อัจฉริยะจากความร่วมมือของนาซาและไมโครซอฟต์ ที่ช่วยให้ผู้ใช้มองภาพ 3 มิติเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างแนบเนียน
หลังจากที่บริษัทไมโครซอฟต์ได้ทำการเปิดตัว 'โฮโลเลนส์' เทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาจากความร่วมมือกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ 'นาซา' ของสหรัฐฯ สร้างสรรค์อุปกรณ์สวมใส่สุดล้ำตัวนี้ที่มีลักษณะคล้ายกับแว่นตา ที่จะทำให้ผู้สวมใส่มองเห็นภาพโฮโลแกรม หรือภาพ 3 มิติ ทั้งยังสามารถจับต้องได้จริงอีกด้วย ล่าสุด หนึ่งในบริษัทที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะหันมาสนใจในตัวอุปกรณ์โฮโลเลนส์อย่างจริงจังก็คือผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า
อุปกรณ์ตัวนี้คือเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมของวงการยานยนต์ไปอย่างสิ้นเชิง โดยฟอร์ดคืออีกหนึ่งบริษัทที่นำโฮโลเลนส์ไปใช้ เนื่องจากว่าโฮโลเลนส์นั้นสามารถที่จะเพิ่มศักยภาพการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนเริ่มต้นอย่างการออกแบบส่วนประกอบต่าง ๆ ของรถยนต์ หรือเเม้กระทั่งขั้นตอนของการซ่อมแซมยานยนต์ด้วยการรวมภาพ 3 มิติเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง และยังสามารถเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยวิศวกรและนักออกแบบตัดสินใจด้วยว่าชิ้นส่วนประเภทใดเหมาะที่จะถูกนำไปประกอบตรงส่วนใดของเครื่องยนต์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งศักยภาพของยานยนต์และความรวดเร็วในการขับขี่ที่จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเทคโนโลยีของโฮโลเลนส์ยังถูกนำไปใช้น้อยมาก โดยภายในสิ้นปีนี้น่าจะมีการสั่งซื้ออุปกรณ์โฮโลเลนส์เพียงแค่ 2 ล้านชิ้นเท่านั้น แต่ผู้ผลิตคาดว่าภายในปี 2023 ยอดขายของโฮโลเลนส์อาจพุ่งสูงเป็น 29 ล้านชิ้นเลยทีเดียว หนึ่งในปัจจัยที่ยอดขายของโฮโลเลนส์ยังไม่สามารถเติบโตได้มากกว่าที่เป็นอยู่เนื่องจากราคาที่สูงมาก โดยโฮโลเลนส์หนึ่งชิ้นมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 99,000-165,000 บาท อุตสาหกรรมส่วนใหญ่จึงยังอยู่ในช่วงทดลองใช้สินค้าตัวนี้อยู่ว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสินค้าของตนมากน้อยเพียงใด