นักวิจารณ์ชี้ 'แอมะซอน' เน้นขายสินค้าไวแต่ไม่ใส่ใจความปลอดภัยเท่าที่ควร
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า แม้ 'แอมะซอน' บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของโลกจะมีนโยบายให้ผู้ขายของเล่นเด็กทุกชนิดจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของสินค้าเป็นหลัก แต่ผู้ขายสินค้าหลายรายกลับบอกว่าแอมะซอนไม่ได้เรียกตรวจสอบหนังสือควาปลอดภัยของสินค้าจนกระทั่งสินค้าดังกล่าววางขายไปแล้วหลายสัปดาห์
ตัวอย่างของอีเมลล์ที่ผู้ประกอบการได้รับจากแอมะซอนระบุว่า ผู้ประกอบการต้องยื่น 'หนังสือแสดงความปลอดภัยของสินค้าบังคับ' สำหรับของเล่นเด็กที่มีขายอยู่บนเว็บไซต์ โดยหนังสือดังกล่าวต้องส่งให้แอมะซอนภายในวันที่ 9 กันยายน 2562 หรือประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากที่สินค้าดังกล่าวเข้าไปขายอยู่บนเว็บไซต์ของแอมะซอน
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการหลายรายยังบอกสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่าพวกเขาไม่เคยถูกขอให้ส่งเอกสารเหล่านั้นให้กับบริษัทมาก่อน ซึ่งความหละหลวมจากอีเมลล์ดังกล่าวตอกย้ำช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของสินค้าบนเว็บไซต์แอมะซอนยิ่งขึ้น หลังจากที่หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาค้นพบสินค้าที่ไม่ปลอดภัยบนเว็บไซต์ถึง 4,000 รายการ ซึ่งรวมถึงของเล่นเด็กในสัดส่วนที่สูงมาก
สถานการณ์นี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาเตือนว่า ช่องว่างระหว่างการขายและการตรวจเช็คคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าจะเป็นบ่อเกิดของสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพบนเว็บไซต์
'แกเร็ต บรัห์ม' ผู้ก่อตั้งเวนเดียนท์ บริษัทที่ปรึกษาด้านการค้าออนไลน์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการตอกย้ำแนวคิด "ส่งก่อนซ่อมทีหลัง" ของบริษัท ซึ่ง 'บรัห์ม' ชี้ว่า ขั้นตอนดังกล่าวช่วยให้แอมะซอนบรรลุเป้าประสงค์ในการมีสินค้าให้ผู้ซื้อเลือกมากที่สุดซึ่งทำให้เกิดสภาวะ 'ผลของมูเล่' (Flywheel effect) ที่จะดึงดูดให้มีผู้ซื้อและผู้ขายเข้ามายังแพลตฟอร์มมากขึ้น นอกจากนี้สภาวะดังกล่าวยังทำให้ราคาของสินค้าหนึ่งถูกลงโดยอัตโนมัติแต่ก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยงเรื่องความไม่ปลอดภัย โดยบรัห์มกล่าวว่า "ในบางกรณีความปลอดภัยของสินค้าก็เป็นเรื่องที่บริษัทเอาไว้ทีหลัง"
ด้านแอมะซอนออกมาตอบโต้การวิจารณ์ดังกล่าวจากนักวิจารณ์หลายคนว่า เป้าหมายของแอมะซอนคือการให้บริการโดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง บริษัทต้องการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ดีที่สุด ด้วยราคา สินค้าที่มีให้เลือก และความสะดวกสบายแบบที่คู่แข่งสู้ไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะยอมแลกสิ่งเหล่านี้กับความปลอดภัยของผู้บริโภค
ขณะที่ 'ราเชล จอห์นสัน กรีเออร์' อดีตผู้จัดการฝ่ายกฏระเบียบของแอมะซอน กล่าวว่า บริษัทใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการจำแนกว่าสินค้าใดจำเป็นต้องมีเอกสารแสดงความปลอดภัยประกอบ แต่เนื่องจากสินค้าที่แตกต่างกันต้องใช้เอกสารต่างกัน อีกทั้งยังมีสินค้าเข้ามาใหม่ตลอดเวลาจึงเป็นเรื่องยากที่ระบบจะทำงานได้อย่างแม่นยำ ราเชล เสริมว่า บริษัทควรมีขั้นตอนที่เข้มงวดสำหรับผู้ขายให้ใช้ร่วมกันในแต่ละประเภทสินค้า เช่นของเล่นหรือสินค้าเด็ก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แอมะซอนสร้างขึ้นมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ถ้าบริษัทต้องการรักษาสิ่งนี้เอาไว้จริง มีหลายเรื่องที่แอมะซอนจำเป็นต้องทำให้ถูกต้อง
เหตุการณ์ทั้งหมดส่งผลให้วุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต 3 คน ได้แก่ ริชาร์ด บลูเมนเทิล, บ๊อบ เมเนนเดซ และ เอ็ก มาร์คีย์ ออกมาเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง 'เจฟฟ์ เบซอส' เมื่อเดือนที่ผ่านมา เรียกร้องให้บริษัทออกมาแสดงความรับผิดชอบและยุติการขายสินค้าที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคโดยเร็วที่สุด