เปิดวาร์ป กิจกรรมว้าว พาลัดเลาะเที่ยวแบบชิล ๆ ย่านฝั่งธนบุรี ในพื้นที่ชุมชนเล็ก ๆ แต่กลับดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้เข้าไปสัมผัสวิถีชีตเรียบง่ายริมคลอง ที่ชุมชนคลองบางหลวง
การเดินทางท่องเที่ยวที่ชิลมาก ๆ ไม่ต้องขับรถเองให้หงุดหงิดรถติด เพราะสะดวกสบาย รวดเร็ว ประหยัดเวลา ด้วยการนั่งรถไฟฟ้า มาลงที่สถานี BTS บางหว้า ศูนย์กลางจุดเชื่อมต่อสำคัญฝั่งธนบุรี จุดหมายปลายทางคือ ชุมชนคลองบางหลวง
ก่อนจะไปสัมผัสวิถีชีวิตริมคลองบางหลวง แวะมาขอพิกัดและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ศูนย์ข้อมูลได้ ตรงประตูทางออก ที่ 3 และ 4 จากนั้นเดินไปตามทางสกายวอล์กประมาณ 200 เมตร เพื่อไปยังจุดสำคัญอย่าง ท่าเรือบางหว้า จุดเชื่อมต่อการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์เรื่องการท่องเที่ยว
ระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่ชุมชนริมคลองบางหลวง ใช้เส้นทางน้ำไปตามคลองภาษีเจริญแห่งนี้ ซึ่งเป็นคลองที่ขุดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ในอดีตเป็นเส้นทางค้าขายสำคัญ ที่ใช้ในการขนส่งน้ำตาลและปลาทู เพราะคลองภาษีเจริญสามารถเชื่อมต่อไปยังแม่น้ำแม่กลองได้
ไม่นานก็ถึงจุดเช็กอินแรก ที่ท่าเรือวัดกำแพง (บางจาก) วัดโบราณตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังคงรักษาสภาพดั้งเดิมเอาไว้เกือบครบถ้วนโดยเฉพาะสถาปัตยกรรม พระอุโบสถหลังใหญ่ที่เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย บวกกับลวดลายการตกแต่งที่ได้อิทธิพลของศิลปะจากจีน
เช่นเดียวกับพระวิหารเก่าแก่ขนาดเล็ก ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายและขวาของพระอุโบสถ สวยงามและมีเสน่ห์ ด้วยโครงสร้างโบราณที่ผ่านกาลเวลามานับร้อย ๆ ปี หลังหนึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อบ้านแหลมจำลอง ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของผู้คนละแวกนี้และผู้มาเยือน ส่วนอีกหลังปิดตายมานานกว่า 80 ปี และเพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อปี 2558 ซึ่งภายในมีพระพุทธรูปโบราณที่ทำจากสัมฤทธิ์และไม้จำนวนมาก
เดินถัดมาไม่ไกลก็จะเข้าสู่ชุมชนคลองบางหลวงอันเรียบง่าย เงียบสงบและยังคงกลิ่นอายในอดีต ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตริมน้ำ การค้าขาย การเดินทางแบบดั้งเดิม รวมทั้งบ้านไม้ชั้นเดียวที่ถูกปรับแต่งให้มีสีสันขึ้น ร้านรวงปรับโฉมใหม่เป็นร้านค้า ร้านกาแฟ ที่ตั้งยาวเลียบคลองไปเรื่อย ๆ พร้อมมุมนั่งพักผ่อนหย่อนขา ให้ชมวิวริมคลองเป็นระยะ ๆ ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมตัวของคนกลุ่มศิลปินที่รักงานศิลปะ เรียกว่าของกินไม่ขาด แถมมีงานศิลปะให้ชมด้วย และอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมคือ การให้อาหารปลาสวายที่ว่ายอยู่เต็มลำคลอง ที่ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับพื้นที่แห่งนี้ได้ไม่น้อย
การแสดงหุ่นละครเล็ก ในตอนหนุมานจับนางสุวรรณมัจฉา ได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่นั่งถูกจับจองจนเต็มตั้งแต่ยังไม่เริ่ม นอกจากจะเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของหุ่นกระบอกและความอ่อนช้อยของเหล่านักแสดงคนรุ่นใหม่แล้ว ยังเรียกรอยยิ้มและความสนุกสนาน เมื่อหนุมานและสุวรรณมัจฉามาหยอกล้อเล่นซุกซนกับผู้ชมกันถึงที่นั่ง สร้างความคึกคักให้บ้านไม้หลังเก่าไม่น้อย
สำหรับบ้านศิลปินแห่งนี้ เดิมเป็นบ้านเก่าของตระกูลช่างทองเก่าแก่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่แสดงงานศิลป์หลายแขนง โดยชั้นบนของบ้านเป็นแกลเลอรีแสดงงานศิลปะ มีศิลปินมานั่งสร้างสรรค์ผลงานให้ชมกันแบบสด ๆ นอกจากภาพวาดแล้ว ยังมีของสะสม หุ่นเชิดและหัวโขน ที่ถูกเก็บรักษาอย่างดี ให้ได้ชมกันใกล้ ๆ
ส่วนพื้นที่ข้างล่าง นอกจากจะเป็นลานโชว์การแสดงหุ่นละครเล็กแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ เปิดสอนนาฏศิลป์ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนกันฟรี ๆ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะการแสดงนี้ให้ยืนยาว โดยมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ให้บริการรับกับบรรยากาศริมคลอง ไปพร้อม ๆ ชมการเสพงานศิลป์อันหลากหลาย
และอีกหนึ่งพิกัดแนะนำเป็นมุมผ่อนคลายแบบวิถีโมเดิร์นเซน ที่ “เอมส์เทลส์ คาแนล บูติค เฮ้าส์” ร้านกาแฟและโฮมสเตย์ขนาดเล็กที่แฝงตัวอยู่ในย่านชุมชนแห่งนี้ โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น มีของว่าง เครื่องดื่มคอยบริการ ส่วนหลังร้านยังมีที่นั่งพักสายตา รับลมเย็น ๆ ริมคลอง สลับกับสีสันของปลาคาร์ปตัวโตในบ่อเลี้ยงใกล้ ๆ
เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่เดินทางมาได้ง่าย แค่นั่งรถไฟฟ้าแล้วต่อเรือ ซึ่งตอนนี้ทางกรุงเทพฯ มีเรือให้บริการฟรีทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จากท่าเรือบางหว้าไปท่าเรือวัดกำแพง โดยเรือจากออกจากท่า ทุก ๆ 30 นาที สะดวกสบายขนาดนี้ ลองปลีกตัวออกจากความวุ่นวาย ปล่อยตัวและใจให้สโลว์ไลฟ์ แล้วคุณจะประทับใจชุมชนเล็ก ๆ ริมคลองแห่งนี้