พาคุณผู้ชมสัมผัสอิตาลีที่แตกต่าง ผ่าน 'กาปรี' จากเกาะโบราณสู่หมุดหมายใหม่การท่องเที่ยว ที่พยายามผลักดันการเติบโตเอสเอ็มอี และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แม้ว่าไอเอ็มเอฟได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอิตาลีจะทรุดหนัก และไม่เติบโตต่อเนื่องถึง 9 ปี
คุณนิติธร สุรบัณฑิตย์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสสถานีโทรทัศน์ วอยซ์ ทีวี ได้ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ และสังคม พร้อมรับฟังการแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของธนาคารออมสิน จากผู้บริหารธนาคาร ที่สาธารณรัฐอิตาลี พร้อมสื่อมวลชนทุกแขนง เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
หนึ่งในจุดหมายของคณะเดินทาง คือ เกาะโบราณกาปรี เกาะทางตอนใต้ของอิตาลี ไม่ไกลจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเมืองประวัติศาสตร์ และอารยธรรมอย่างเนเปิล หรือ นโปลี ซึ่งนับได้ว่า เป็นจุดหมายสำคัญของเส้นทางการท่องเที่ยวทางตอนใต้ของอิตาลีที่ไม่ควรพลาดเกาะกาปรี ตั้งอยู่ในแคว้นกัมปาเนีย มีพื้นที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง และหินผา มีประชากรประมาณ 1 หมื่น 2 พันคน ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่พักผ่อน และตากอากาศของเจ้าผู้ครองนคร ชนชั้นสูง ตลอดจนผู้มีอันจะกิน ควบคู่กับชาวเกาะดั้งเดิมที่ใช้พื้นที่ทำเกษตรกรรม ส่งออกเลมอนด์ และไวน์เลื่องชื่อ
เกาะแห่งความสงบ และสภาพอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีแสงแดดอุ่นตลอดทั้งปี ตัดกับน้ำทะเลสีคราม ตลอดจนวนอุทยานออกัสตัส และศาสนสถานหลายแห่งทำให้ที่นี่เป็นแหล่งรวมวิลล่าของเซเลบริตี้ชื่อดังของโลก ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา และเป็นที่ตั้งของ โรงแรมลา สกาลินาเตลลา (Hotel La Scalinatella) หนึ่งในโรงแรมสุดหรูของยุโรป สนนราคาต่อคืนอย่างน้อย 8 หมื่นบาทไทย
เมื่อดารา หรือศิลปิน ผู้มีภาพลักษณ์เป็นผู้นำด้านแฟชั่นระดับโลกมารวมตัวกันที่นี่ เราจึงเห็นร้านสินค้าเบรนด์เนมมากมายผุดเป็นดอกเห็ด จนส่งผลให้ที่นี่มีภาพลักษณ์เป็นเกาะหรูหราอู่ฟู้ และราคาแพงหูฉี่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่ใดในโลก
คุณนิติธร ยังได้พูดคุยกับคุณป้ามาเรีย หนึ่งในชาวพื้นเมืองของเกาะกาปรี เธอเล่าว่า การท่องเที่ยวกาปรีจำเป็นต้องตรวจสอบสภาพอากาศสม่ำเสมอ แต่กระนั้นก็ตาม กาปรียังเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยว และเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับคนท่ีนี่ค่อนข้างมีคุณภาพชีวิตที่ดี หากพูดถึงเงินกระเป๋าแล้ว เอาเป็นว่า ชาวกาปรีหลายคนที่เธอรู้จัก มีคอนโดไว้พักผ่อนริมชายหาดภูเก็ตแทบทุกคน
เกาะกาปรี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสุดเร้นลับ และน่าค้นหามากมาย อย่างในภาพ คือ หนึ่งในสถานที่ที่คุณนิติธร ไปเยี่ยมชม คือ ถ้ำบลูร็อตโต้ /นักท่องเที่ยวต้องลุ้น และใช้โชคชะตาว่าจะสามารถเข้าถ้ำนี้ได้หรือไม่ ถ้าสภาพอากาศ และระดับน้ำทะเลเป็นใจ ท่านจะได้พบกับสิ่งที่เห็นในภาพ คือ น้ำทะเลสีฟ้าสะท้อนแสง คล้ายบลูโอเชี่ยนนั่นเอง
สิ่งที่ผู้นำคณะ และคุณนิติธร พบเห็นคือ ธุรกิจเอสเอ็มอีต่างๆ ทั้งการผลิตนาฬิกา อาหารแปรรูป ของที่ระลึก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเลมอนด์ ซึ่งถือว่าเป็นของขึ้นชื่อของคนที่นี่ ทั้งไวน์ สบู่ วัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร น้ำหอม เป็นต้น ในทุกมุมของเมือง เราจึงพบเห็นว่า ผู้ประกอบการรายย่อยนำเลเมอนด์ท้องถิ่นมาขาย แทรกตัวไปตามร้านแบรนเนมด์ต่างๆ เช่นเดียวกับร้านไอศครีมชื่อดัง อย่าง เจลาโต บาร์ ใครจะรับประทานต้องใช้เวลาต่อคิวไม่ต่ำกว่า 10 นาที แต่รับรองได้ว่า คุณจะได้ทานไอศครีมรสต้นตำรับ และขนมปัง หรือโคนที่ผลิตสด
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาสภาพเศรษฐกิจในยุโรป จะพบว่า ค่อนข้างน่าเป็นห่วง และทรุดต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากวิกฤติหนี้กรีซ และการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอส ระบุว่า เศรษฐกิจอิตาลีเองจะไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะถึงปี 2025 สาเหตุหลักเกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ภาคการลงทุนเติบโตต่ำ หนี้สาธารณะสูงถึงร้อยละ 132 หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ร้อยละ 18 ซึ่งหากมีปัญหาจะเกิดกระทบในวงกว้าง เพราะอิตาลีมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่อันดับ 8 ของโลก ส่งผลให้มีความจำเป็นที่สหภาพยุโรปต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความคล่องตัวทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม การผลักดันเศรษฐกิจขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี ก็น่าจะมีหวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งเริ่มปรากฎผลบวก โดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ลดลง ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลี พบว่า มีอัตราจ้างงานเพิ่มขึ้น 0.1 และอัตราว่างงานลดลง 0.2 ในแต่ละปีกลุ่มโรงแรมที่พักพบว่า มีนักท่องเที่ยวประมาณ 55 ล้านคน เงินหมุนเวียนกว่า 171 พันล้านยูโร หรือกว่าร้อยละ 10 ของจีดีพี
เกาะกาปรี จึงอาจไม่ใช่เพียงแหล่งท่องเที่ยว และศูนย์เทรนด์แฟชั่นจากเซเลบบริตี้ทั่วโลกเท่านั้น หากยังมีส่วนช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจในประเทศ และส่งเสริมการแข่งขันของคนท้องถิ่น เป็นอุตสาหกรรมหนึ่ง ท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง
