บริษัทที่ปรึกษาด้านการทำวิจัยระดับโลก เปิดเผยว่า ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีมากขึ้น ชอบ Self Service และควบคุมทุกอย่างเอง นอกจากนั้นยังมีความเป็นไปได้ที่มนุษย์จะรู้สึกดีและหลงรักหุ่นยนต์
บริษัท เอ็นไวโรเซล ประเทศไทย จำกัด ที่ปรึกษาด้านการทำวิจัยระดับโลก เผย 5 เทรนด์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคประจำปีนี้ (2018) ได้แก่
1. ผู้บริโภคจะพึ่งพาเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น เนื่องหลายบริษัทหันมาใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ แอปพลิเคชั่น และโดรนเพราะมีประสิทธิภาพมากกว่า และลดต้นทุนได้ดี ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคจะคุ้นเคยกับการ Self Service หรือการบริการตัวเองมากขึ้น และชอบควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะสะดวก รวดเร็วกว่า ดังนั้น การนำ Service mind ของพนักงานมาเป็นจุดขายอาจไม่ได้ผลอีกต่อไป
2. ผู้บริโภคจะเชื่อสมองกลหรือผู้ช่วยอัจฉริยะมากขึ้น เพราะพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด รวมถึงการนำเสนอแบบเรียลไทม์ และเก็บข้อมูลได้แม่นยำกว่ามนุษย์ นอกจากนี้ยังพบสถิติการเติบโตของผู้ช่วยอัจริยะ จาก 390 ล้านบาท ในปี 2015 ล้านบาท และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จึงคาดการณ์ว่าภายในปี 2021 จะมีมูลค่า 1,800 ล้านบาทในปี 2021 ซึ่งในอนาคต AI จะถูกพัฒนาให้ตอบโต้กับมนุษย์ สื่ออารมณ์ หรือให้คำแนะนำ ว่าอะไรเหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละคนได้ ส่งผลให้บล็อกเกอร์ กูรู หรือ อินฟลูเอ็นเซอร์ มีบทบาทลดลง
3. ผู้บริโภคชื่นชอบคอนเทนต์ในรูปแบบเกมที่สนุกสนาน ท้าทาย โดยตัวละครในเกมสามารถนำมาใช้โฆษณาได้แทนคนดัง ซึ่งสอดคล้องกับความนิยมของเกมที่ถูกพัฒนาเป็นการแข่งขันกีฬา Esport และมีธุรกิจเกิดใหม่มากมาย เช่น Esport bar นอกจากนั้น หลายแบรนด์ยังใช้เกมเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น แทนที่การโฆษณาแบบเดิม ๆ
4.ผู้บริโภคชื่นชอบประสบการณ์แบบเรียลไทม์ และนิยมซื้อ-ขาย ผ่าน LiveStream ดังนั้นการวางสินค้าไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าร้านเสมอไป แต่สินค้าจะไปอยู่ในจุดใดก็ได้ เพียงนำเสนอได้แบบเรียลไทม์ ได้เห็นเบื้องลึก เบื้องหลัง ก็จะสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยตอนนี้หลายแบรนด์ได้นำวิธีนี้มาใช้ เช่น แอปพลิเคชั่นของอีเกีย ที่ให้ผู้บริโภคนำเฟอร์นิเจอร์มาวางในห้อง ก่อนตัดสินใจซื้อจริง หรือเคาท์เตอร์เครื่องสำอางค์ Yves Saint Laurent ที่ใช้ AR สแกนใบหน้าลูกค้า เพื่อให้ลองเครื่องสำอางค์ได้หลาย ๆ แบบ
5. มนุษย์จะชอบโลกเสมือนจริง สื่อสารกับปัญญาประดิษฐ์ และมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกันน้อยลง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การใช้ Chatbot ในการตอบโต้และช่วยเหลือมนุษย์ในด้านต่างๆ หรือ โซเฟีย หุ่นยนต์ตัวแรกที่ได้สัญชาติซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถูกพัฒนาให้มีอารมณ์เหมือนมนุษย์ / นอกจากนั้น โลกเสมือนจริงหรือหุ่นยนต์ในปัจจุบัน มักถูกพัฒนามาแต่อารมณ์ด้านบวก ทำให้มนุษย์รู้สึกดีและหลงรัก จนมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2025 มนุษย์จะชอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหุ่นยนต์มากกว่ามนุษย์ด้วยกันเอง
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จึงทำให้นักการตลาดต้องเปลี่ยนวิธีเข้าถึงผู้บริโภค หรือสร้างประสบการณ์การให้บริการรูปแบบใหม่ๆ หรวมทั้งอาจเลือกใช้สมองกลมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด