Huawei พัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเอง
ระบบปฏิบัติการบนสมาร์ตโฟนหลัก ๆ แล้ว ก็มีอยู่สองระบบคือ ไอโอเอสของบริษัทแอปเปิลที่ใช้สำหรับ iPhone โดยเฉพาะ และแอนดรอยด์ของกูเกิล ที่สมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ใช้กันเพราะกูเกิลเปิดให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ดเพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์ของตัวเองได้ Huawei ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนยักษ์ใหญ่จากจีน ก็ใช้ระบบปฏิบัติการของแอนดรอยด์ แต่ล่าสุด Huawei ยืนยันว่ากำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเอง เผื่อกรณีฉุกเฉินหาก Huawei ถูกสหรัฐฯ แบนไม่ให้ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นของบริษัทสหรัฐฯ อีกต่อไป Huawei จะได้มีระบบปฏิบัติการของตัวเองนำมาใช้แทนได้ทันที
โฆษกของ Huawei เปิดเผยว่า Huawei ต้องการที่จะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ต่อไป และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเอง แต่เนื่องจากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ยังดูไม่แน่นอน และ Huawei ก็เป็นบริษัทที่ถูกทางการสหรัฐฯ เพ่งเล็งเป็นพิเศษ จึงจำเป็นต้องเตรียมทางออกไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน แน่นอนว่า ระบบปฏิบัติการของ Huawei ยังคงไม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และยังมีแอปพลิเคชันน้อยมาก แต่ทาง Huawei ก็กำลังค่อยๆ พัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
โฆษณาใหม่ iPhone ย้ำจุดขายเรื่องความเป็นส่วนตัว
การปกป้องข้อมูลส่วนตัวเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคยุคดิจิทัลให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์สื่อสารอย่างสมาร์ตโฟน และ iPhone เป็นสมาร์ตโฟนที่ผู้บริโภคให้ความมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด แอปเปิลได้ปล่อยโฆษณาตัวใหม่ ที่ตอกย้ำจุดขายของไอโฟนที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานผ่านช่องยูทูบของแอปเปิล ซึ่งโฆษณาแสดงให้เห็นภาพการใช้ชีวิตประจำวันของคนจำนวนมากที่ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้ผู้อื่นล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว และบอกในตอนท้ายว่า 'หากความเป็นส่วนตัวเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตคุณ สมาร์ตโฟนที่คุณใช้ในชีวิตก็ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย และนั่นคือ iPhone'
แอปเปิลเตรียมจะปล่อยโฆษณาตัวนี้ผ่านสื่อต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมา iPhone ได้รับการยอมรับว่าให้ความสำคัญกับเรื่องการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งานมาก ไม่ว่าจะเป็นการตั้งรหัสผ่านที่รัดกุม และยังมีการควบคุมแอปพลิเคชันบน App Store อย่างเข้มงวดไม่ให้มีมัลแวร์เล็ดลอดเข้ามา และนั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้ iPhone ส่วนหนึ่ง ยังคงไม่เปลี่ยนใจไปใช้สมาร์ตโฟนแบรนด์อื่น เพราะมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของ iPhone มากกว่า
Tesla เปิดตัว SUV รุ่น Model Y
Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ ได้เปิดตัวรถยนต์ SUV ขนาดเล็ก ที่มีชื่อรุ่นว่า Model Y โดยหน้าตาก็เป็นไปตามคาดคือเป็นการเอารถรุ่น Model 3 มาขยายตัวถังและทำให้สูงขึ้น โดย Model Y ที่เปิดตัว แบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น Performance ซึ่งเป็นรุ่นท็อป, ตามด้วย รุ่น Long Range AWD, รุ่น Long Range RWD และรุ่น Standard Range ซึ่งความแตกต่างของแต่ละรุ่น อยู่ที่อัตราเร่งความเร็ว และระยะทางในการเดินทางต่อการชาร์ตแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ส่วนราคาก็เริ่มต้นตั้งแต่ 39,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,200,000 บาท ไปจนถึง 60,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,900,000 บาท และหากลูกค้าต้องการเพิ่มออปชัน Autopilot หรือระบบขับขี่รถอัตโนมัติ ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 3,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 90,000 บาท
Tesla Model Y 3 รุ่นแรกเปิดให้ทำการจองแล้วบนเว็บไซต์ของ Tesla และจะเริ่มรับรถได้ในช่วงปลายปี 2020 ส่วน ส่วนรุ่นสุดท้ายซึ่งเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุด จะเปิดให้จองในภายหลัง และจะรับรถได้ในช่วงต้นปี 2021