เฮนรี โกลดิง พระเอกจาก Crazy Rich Asian ปลุกกระแสนักแสดงนำชายชาวเอเชียที่ทั้งหล่อ มีความสามารถ และสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของวงการฮอลลีวูดได้
เว็บไซต์ CNN Entertainment เขียนบทความเกี่ยวกับอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง "Crazy Rich Asians" หรือเหลี่ยมโบตั๋น จากค่าย Warner Bros.ไว้อย่างน่าสนใจในประเด็นของนักแสดงนำชายเชื่อสายเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความหล่อเหลาและความฮ็อตของเฮนรี โกลดิง พระเอกของเรื่องที่รับบทเป็นนิค ยัง ที่ถ่ายทอดบทบาทการเป็นพระเอกมือใหม่ได้สมบทบาทอย่างไม่น่าเชื่อ
เฮนรี โกลดิง นักแสดงชายมากความสามารถในวัย 31 กำลังโด่งดังและเป็นที่จับตาอย่างมากในวงการฮอลลีวูดหลังจากที่มีกระแสข่าวของการรับบทบาทดารานำของภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งสร้างจากนวนิยายของเควิน กวาน ซึ่งเกี่ยวกับอาจารย์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่เดินทางไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนในสิงคโปร์ แล้วค้นพบว่าครอบครัวของแฟนหนุ่มเป็นมหาเศรษฐี และแม่ของแฟนก็ไม่เห็นด้วยที่ทั้งคู่จะคบกัน โดยการรับบทนิค ยัง ถือเป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกของโกลดิงอีกด้วย
ก่อนหน้านี้โกลดิงมีอาชีพเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวของสถานีโทรทัศน์ช่อง BBC ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร InStyle ไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่าเขาไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะได้มารับบทเป็นนิค ยัง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยที่มาของการผันตัวจากพิธีกรโทรทัศน์มาเป็นนักแสดงของโกลดิงก็คือการได้รับการติดต่อจากทางทีมผู้กำกับของเรื่อง โดยเขาได้ปฏิเสธคำเชิญให้เข้าไปลองออดิชันอยู่หลายครั้งจนเมื่อมีทีมงานแนะนำผู้กำกับว่าเคยรู้จักผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะเหมาะสมกับบทบาทนิคมากที่สุด จอน ชู ผู้กำกับของเรื่องได้ยินดังนั้นจึงไปตามฟอลโลวอินสตาแกรมของโฮลดิง และสนใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก
จากการเริ่มตามฟอลโลวอินสตาแกรมในครั้งนั้นส่งผลให้โกลดิงลองเริ่มอ่านหนังสือนวนิยายเรื่อง Crazy Rich Asians และชื่นชอบเรื่องราวและตัวละครเป็นอย่างมาก โดยมองว่ามีหลายแง่มุมในตัวของนิคที่คล้ายคลึงกับตัวจริงของเขาอย่างน่าประหลาดใจ ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจยอมไปลองออดิชันตามคำเชิญ และเป็นไปตามคาด เขาได้รับเลือกให้รับบทเป็นนิคในที่สุด
อย่างไรก็ตามหลังมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าโฮลดิงคือผู้รับบทนิค ยัง ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายจากแฟนๆนิยายถึงความเหมาะสม ซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่เขาไม่เคยมีประสบการณ์ในการแสดงภาพยนตร์มาก่อนเลย แต่กลับกลายเป็นประเด็นที่ถึงขั้นสร้างความไม่พอใจให้กับตัวโฮลดิงเองก็คือการถูกกล่าวหาว่าเขายังไม่มีความเป็นเอเชียนมากพอที่จะรับบทดังกล่าว
โดยโกลดิงได้ให้สัมภาษณ์กับอินสไตล์ไว้ว่า เขาไม่เข้าใจว่าผู้คนเอาอะไรเป็นตัววัดว่าใครมีความเป็นคนเอเชียมากพอ แม้ว่าเขาจะมีแม่เป็นชาวมาเลเซียและพ่อเป็นชาวอังกฤษ แต่เขาใช้ชีวิตเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชีย อย่างการทำงานเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยวของ BBC เขาเดินทางไปเกือบจะทุกประเทศในเอเชียแล้วยกเว้นเพียงประเทศเมียนมาร์เท่านั้น เขาเดินทาง เรียนรู้ และรับฟังเรื่องราวและประสบการณ์มากมายตลอดการเดินทาง เพราะฉะนั้นมันคือสิ่งที่ไม่แฟร์เลยที่คนที่ไม่เคยสัมผัสชีวิตคนเอเชียมากมายอย่างโฮลดิง หรือแม้แต่เดินทางมาเอเชีย จะมาตัดสินว่าเขาไม่มีความเป็นคนเอเชียมากเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เฮนรี โกลดิง ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นผ่านผลงานของเขาแล้วว่าผู้ชายชาวเอเชียอย่างเขามีความสามารถและศักยภาพมากพอที่จะก้าวขึ้นมาเป็นดารานำในหนังที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาลและมีนักแสดงเป็นชาวเอเชียล้วนได้อย่างน่าชื่นชม โดยโกลดิงยังกล่าวไว้ด้วยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้ชมจะได้เห็นหลายอย่างที่เป็นสิ่งที่เปิดโลกอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดบทบาทของผู้ชายเอเชียในความเป็น Sex Symble และฝ่ายหญิงเป็นผู้กุมอำนาจและความร่ำรวยแบบบ้าคลั่งไว้ในมือ ซึ่งตรงกันข้ามกับค่านิยมชายเป็นใหญ่และหญิงเป็นเพศที่สวยงามและเย้ายวน
ในเรื่องนี้นอกจากความฮ็อตของตัวพระเอกของเรื่องอย่างนิคแล้ว ยังมีอีกหลายบทบาทของนักแสดงชายเอเชียที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว อย่างเช่นโคลิน คู แสดงโดยคริส เผิง ในบทบาทเพื่อนสนิทพระเอกตั้งแต่วัยเด็กมาตั้งแต่เด็ก เขากำลังจะแต่งงานกับอารามินตา ลี และขอให้นิคเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ แม้ว่าเขาจะเติบโตมาในแวดวงเศรษฐีเช่นเดียวกับนิค แต่เขาก็มีมุมมองต่อสังคมที่เป็นผู้ใหญ่เช่นเดียวกับเพื่อนของเขา
นอกจากนั้นก็ยังมีไมเคิล รับบทโดยปิแอร์ เผิง อดีตร้อยเอกประจำกองทัพ สามีของแอสทริด เหลียง เขาคือลูกเขยที่มาจากชนชั้นกลาง ต้องถูกบรรดาญาติฝ่ายภรรยาตอกย้ำตลอดเวลาว่าแต่งงานกับภรรยาที่มีสถานะสูงกว่า ถ้าจะเปรียบว่าตระกูลเหลียงเป็นราชวงศ์ของสิงคโปร์ ไมเคิลก็คงเป็นได้แค่สามัญชนคนธรรมดา
ความสนุกครบรสของภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้กับวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดด้วยการทำสถิติยอดเข้าชมสุดสัปดาห์แรกดีเกินคาด โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 'Crazy Rich Asians' สามารถทำเงินในสหรัฐฯ ไปได้สูงถึง 25.2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 830 ล้านบาทเลยทีเดียว และในการเข้าฉาย 5 วันแรกได้สูงถึง 34 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,100 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่นักวิจารณ์หนังในฮอลลีวูดเคยคาดการณ์ไว้อีกด้วย
