รายการ Wake Up News ประจำวันที่ 15 มีนาคม 2560
ในที่สุดก็มาถึงจุดที่ต้องอัญเชิญเกจิบริกรทั้งหลายเข้ามาช่วยกันเสก อภินิหารกฎหมาย เพื่อปลุกผีหุ้นชินให้ทุกคนไล่ล่าตามเก็บภาษีมาให้ได้ พลเอกประยุทธ์เผย ยังไงก็ไม่ใช้ ม.44 เข้ามาตามไล่เก็บภาษีหุ้นดีลชินคอร์ปแน่นอน ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร แต่มอบหมายให้วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเรียกหน่วยงานทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง ใช้กฎหมายปกติเพื่อเก็บภาษีให้ทันเวลาก่อน 31 มีนาคมนี้ให้ได้ ย้ำทำตาม สตง. เดี๋ยวจะหาว่ารัฐบาล คสช. ไม่ได้ทำอะไรเลย
ขณะที่พลโทสรรเสริญระบุ ที่ประชุม ครม. ได้แนวทางสว่างว่า เมื่อปี 2555 ศาลภาษีอากรกลางตัดสินไว้ว่า นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาเป็นนอมินีของอดีตนายกฯ ทักษิณแล้ว ไม่ใช่ตัวการสำคัญ เพราะตัวการสำคัญคือนายทักษิณ ดังนั้น การออกหมายเรียกทั้งคู่ในตอนนั้น จึงเหมือนเป็นการออกหมายเรียกนายทักษิณแล้ว โดยให้ดูว่าเจตนาการขายหุ้นนั้นสุจริตหรือไม่สุจริต
ทำอย่างไรให้ทันก่อนอายุความ ? วิษณุ เครืองาม ระบุในที่ประชุม ครม. ว่าทำไม่ได้ แต่ทำได้ด้วยอภินิหารของกฎมาย มุมแบบนี้คงไม่มีใครสามารถคิดออกได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ เมื่อ 13 มีนาคมที่ผ่านมา จึงต้องเชิญเกจิที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้มา ถึงคิดออกมาได้
ทีม Wake Up News ต่อสายตรงถึง เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ระบุอดีตนายกฯ ทักษิณมีโอกาสพิสูจน์ความถูกต้อง เชื่อว่าแต่ละฝ่ายเดินหน้าเก็บภาษีได้ยาก และถ้าคิดว่าเก็บได้ ก็ให้ระวังให้มาก เพราะอาจเจอฟ้องกลับด้วย ม.157
ขณะที่ นปช. แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ร่วมหารือปรองดองวันนี้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ระบุ คงไม่พูดไปถึงเรื่องนิรโทษกรรม เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาล คสช. ตั้งเงื่อนไขไว้ คาดว่าฝ่ายคนกลางหรือฝ่ายเจ้าภาพอย่างรัฐบาลคงจะดำเนินการปรองดองได้สำเร็จ ครั้งนี้ก็ถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองด้วยเช่นกัน
ปิดท้ายด้วยเรื่อง "ป๋าๆ" เมื่อพี่อนุสร จิรพงศ์ สมาชิกขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ผู้ไม่ได้มีบทบาทอะไรโดดเด่น ไม่ได้ทำให้สังคมเห็นผลงานการปฏิรูปอะไร ทำให้สังคมพากันค้นประวัติมาดูว่า เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงถูกเลือกให้มาเป็น สปท. ได้ ดูไปดูมา ปราฏว่าเป็นหลานจอมพลถนอม มีศักดิ์เป็นหลานพลเอกณรงค์ กิตติขจร ที่เกี่ยวพันกับ จปร. 5 และยังเชื่อมโยงกับบัณฑูร ล่ำซำ...ตกลงว่า ได้เก้าอี้ สปท. เพราะเครือข่ายหรือความสามารถ ?