คลื่นความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศมากกว่า 300 ราย และทำให้ประชาชนอีก 330 ล้านคนขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำใช้ในชีวิตประจำวัน
คลื่นความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วอินเดีย ทำให้เกิดภัยแล้งรุนแรงซึ่งนอกจากทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายและปศุสัตว์ล้มตายจำนวนมาก ยังทำให้ชาวอินเดียกว่า 330 ล้านคนขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำใช้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากแม่น้ำ ทะเลสาบและเขื่อนกักเก็บน้ำหลายแห่งแห้งขอด โดยเฉพาะในรัฐมหาราษฏร์ และรัฐคุชราช ซึ่งระดับน้ำในเขื่อนเหลืออยู่ไม่ถึงร้อยละ 22 ทำให้รัฐบาลต้องส่งรถบรรทุกน้ำเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในหลายพื้นที่
นอกจากนี้ อากาศที่ร้อนจัดทำให้ประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 300 ราย ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยในรัฐโอริสสามีรายงานผู้เสียชีวิต 110 ราย รัฐเตลังคานา มีผู้เสียชีวิต 137 ราย และในรัฐอานธรประเทศ (อาน ทะ ระ ประ เทด) อีก 45 ราย ซึ่งรัฐเหล่านี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 44 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิปกติของเดือนเมษายนในแต่ละปีประมาณ 4 – 5 องศาเซลเซียส
คาดว่าสถานการณ์คลื่นความร้อนและภัยแล้งในอินเดียจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากต้องรอถึงเดือนมิถุนายน ถึงจะเริ่มมีฝนตกจากลมมรสุมที่พัดผ่านเข้ามาในอินเดีย