ผู้ใช้เฟซบุ๊กในสหรัฐฯ ลดลง 15 ล้านคน
แม้ว่าเฟซบุ๊กจะยังคงเป็นโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 1 แต่ว่าก็กำลังเจอกับปัญหาผู้ใช้งานลดลงเรื่อย ๆ ล่าสุด รายงานจาก Edison Research พบว่านับตั้งแต่ปี 2017 จนถึงตอนนี้ เฟซบุ๊กสูญเสียฐานผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ไปกว่า 15 ล้านคน โดยช่วงอายุคนที่เลิกใช้งานเฟซบุ๊กมากที่สุดคือกลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 12-34 ปี
ผลสำรวจนี้อาจขัดแย้งกับตัวเลขของเฟซบุ๊กที่ระบุว่า เมื่อไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเป็นประจำทุกวันอยู่ที่ 1,523 ล้านคน และมีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนอยู่ที่ 2,320 ล้านคน ทั้งสองตัวเลขถือว่าเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน อย่างไรก็ตามนี่เป็นตัวเลขของผู้ใช้งานทั่วโลก แต่ผลสำรวจของ Edison Research เป็นการวิจัยเฉพาะผู้ใช้งานในสหรัฐฯ และคำถามที่ใช้ในการสำรวจคือ 'ปัจจุบัน คุณใช้เฟซบุ๊กอยู่หรือไม่' ไม่ได้ถามว่า 'คุณมีบัญชีเฟซบุ๊กหรือไม่' ซึ่งหมายความว่า แม้คนจำนวนมากยังคงมีบัญชีเฟซบุ๊กอยู่ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปใช้งานแล้ว
แม้จะมีผู้ใช้งานที่เป็นคนหนุ่มสาวลดลง แต่เฟซบุ๊กมีผู้ใช้งานที่เป็นผู้สูงอายุ ที่อายุเกิน 55 ปีมากขึ้น และโดยรวม เฟซบุ๊กก็ยังคงเป็นโซเชียลมีเดียอันดับ 1 ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด และพยายามที่จะดึงดูดผู้ใช้งานให้คงอยู่ ด้วยการนำฟีเจอร์เด่น ๆ จากโซเชียลมีเดียอื่น เข้ามาใช้กับแพลตฟอร์มของตัวเอง
สถานีใหม่เทสลา ชาร์จ 5 นาที วิ่งได้ 120 กม.
เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังจากสหรัฐฯ ได้เปิดตัวสถานีชาร์จไฟรุ่นใหม่ Supercharger V3 มีกำลังไฟสูงสุด 250 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จไฟให้กับรถยนต์ได้รวดเร็วกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที รถยนต์ก็สามารถวิ่งได้เป็นระยะทาง 75 ไมล์ หรือราว 120 กิโลเมตร และหากชาร์จ 1 ชั่วโมง รถก็จะวิ่งได้ 1,000 ไมล์ หรือประมาณ 1,600 กิโลเมตร
ขณะนี้ สถานี Supercharger V3 แห่งแรกก็อยู่ที่เมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานใหญ่ของเทสลา และจะเริ่มตั้งสถานีแห่งอื่น ๆ ตามเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนเมษายน และคาดว่าจะติดตั้งในยุโรปและเอเชียได้ ในช่วงปลายปีนี้ โดยผู้ขับขี่รถเทสลาจะต้องได้รับการอัปเดตเพื่อให้รถรองรับการใช้งานสถานีชาร์จรุ่นใหม่นี้ ซึ่งเริ่มจากรถยนต์รุ่น โมเดล 3 ที่มีผู้ใช้มากที่สุดก่อน
นอกจากสถานีชาร์จไฟ Supercharger V 3 แล้ว สถานี Supercharger V2 ก็ได้รับการอัปเดตเพิ่มกำลังไฟจาก 120 กิโลวัตต์ เป็น 145 กิโลวัตต์ด้วย โดยขณะนี้ เทสลามีสถานีชาร์จไฟอยู่ทั่วโลกประมาณ 12,000 แห่ง
Leica Q2 เปิดตัวแล้ว
Leica ผู้ผลิตกล้องคุณภาพสูงจากเยอรมนี ได้เปิดตัวกล้องคอมแพคฟูลเฟรม Leica Q รุ่น 2 ที่หลายคนรอคอยมานานแล้ว ซึ่งหากดูจากภายนอกอาจจะดูไม่แตกต่างจากกล้อง Leica Q รุ่นแรก แต่ภายในมีการปรับปรุงเพิ่มสเปกเข้าไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์กล้อง ที่เพิ่มความละเอียดจาก 24 ล้านพิกเซล เป็น 47.3 ล้านพิกเซล, วิวไฟน์เดอร์ที่พัฒนาจากจอ LCD มาเป็นจอ OLED, สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ระดับ IP 52, เพิ่มความสามารถครอปรูปภาพได้ที่ระยะ 75 มม. และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
การที่ Leica Q รุ่น 2 มีการออกแบบที่ไม่แตกต่างจาก Leica Q รุ่นแรก แสดงให้เห็นว่า Leica พอใจกับการออกแบบที่ลงตัวของ Leica Q จนไม่จำเป็นต้องปรับปรุงการออกแบบที่ตรงไหน จะมีเพียงแค่การปรับปรุงตำแหน่งปุ่มกดในบางจุดเพื่อให้ตัวกล้องดูสะอาดตามากขึ้น เช่น ปุ่มกดเมนูด้านหลัง ที่ลดลงจาก 5 ปุ่ม เหลือแค่ 3 ปุ่ม ส่วนเลนส์ที่ใช้ยังคงเป็นฟิกซ์เลนส์ระยะ 28 มม. เหมือนเดิม ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะแก่การถ่ายภาพแนว Street และการพกพาเป็นกล้องติดตัวระหว่างเดินทาง
ราคา Leica Q รุ่น 2 แพงขึ้นกว่ารุ่นแรกเล็กน้อย ราคาที่สหรัฐฯ อยู่ที่ 4,995 ดอลลาร์ หรือประมาณ 160,000 บาท ส่วนราคาในประเทศไทยต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Leica ประเทศไทย