เคบับ กลายเป็นอาหารยอดฮิต ที่สามารถเจาะตลาดยุโรป ซึ่งมีปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ให้เปิดรับอาหารตะวันออกกลางได้ไม่ยาก เพราะคุณค่าทางโภชนาการสูง แถมราคายังถูก และความนิยมนี้ ยังเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่น่าพอใจให้แก่บรรดาร้านค้าต่างๆ ด้วย
เคบับ เป็นอาหารตะวันออกกลางจำพวกเนื้อเสียบไม้ย่างที่พบได้ทั่วไปในภูมิภาค แต่ในระยะหลัง 'เคบับ' ได้รับความนิยมมากขึ้นในภูมิภาคอื่นๆ ทั้งในยุโรปและเอเชีย ซึ่งน่าแปลกใจที่หนึ่งในประเทศเหล่านี้ กลับเป็นประเทศที่มีอาหารประจำชาติขึ้นชื่ออย่าง อิตาลี
ช่วงไม่กี่ปีให้หลัง อิตาลี ที่โด่งดังเรื่อง พิซซา สปาเกตตี ชีสมอซซาเรลลา และไอศกรีมเจลาโต กลับเปิดรับวัฒนธรรมอาหารต่างถิ่นมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเลิกพฤติกรรมตั้งคำถามกับสิ่งที่ไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศของตัวเอง
หนึ่งในร้านเคบับ ที่เปิดให้บริการใจกลางกรุงโรมของอิตาลี เปิดเผยว่า ที่นี่ขายทั้งพิซซา พาย และข้าวผัดสไตล์อิตาเลียน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ กลับเข้ามาถามหาถึงเคบับ และบางรายก็สั่งฟาลาเฟล ที่เป็นอาหารประเภทถั่วของชาวตะวันออกกลางด้วย เพื่อแกล้มกับเบียร์เย็นๆ
ทั้งหมดนี้ อาจมีปัจจัยมาจากการอพยพของชาวแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ประกอบกับ วิกฤตเศรษฐกิจที่บังคับให้หลายครัวเรือน ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าอาหาร ทำให้เคบับ ซึ่งเป็นเมนูที่ง่าย ถูก เร็ว และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง กลายเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับชาวอิตาเลียนจำนวนมาก
แม้แต่ในย่านของชาวอาหรับในกรุงโรม ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผสมผสานเครื่องปรุงตะวันออกกลางเข้ากับพาสตาและอาหารอิตาเลียนอื่นๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ไม่ฉีกแนวจากวัฒนธรรมการกินของ��าวอิตาเลียนนัก แต่อาหารตะวันออกกลางแท้ๆ อย่างเคบับ ก็ยังได้รับความนิยมมากกว่า ทั้งการทานในร้าน และการสั่งกลับบ้าน
จากสถิติของหอการค้าแห่งชาติอิตาลี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า กว่า 3 แสนกิจการในประเทศ เป็นของชาวต่างชาติ และหลายกิจการที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจะเป็นร้านอาหาร ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราการว่างงานของอิตาลีได้เป็นอย่างดี จนทำให้ชาวอิตาเลียนรุ่นใหม่ เริ่มหันมาสนใจที่จะเปิดร้านอาหารต่างชาติบ้างแล้วเช่นกัน
ไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการเท่านั้น แต่กิจการที่เกี่ยวข้องกับเคบับ ล้วนได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากไปตามๆ กัน ทั้งยังเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจของอิตาลีโดยรวมอีกด้วย อาจเรียกได้ว่า เคบับนั้น ดีต่อทั้งเจ้าของกิจการชาวอาหรับ และดีต่อทั้งเจ้าของประเทศชาวอิตาเลียน เลยทีเดียว