แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ องค์การนิรโทษกรรมสากล ออกแถลงการณ์หลังมีรายงานข่าวที่ว่า ศาลมีคำสั่งตามคำขอของรัฐบาลไทยให้ปิด 'ทุกแพลตฟอร์ม' ของวอยซ์ทีวี โดยแถลงการณ์ ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวถือเป็นยุทธศาสตร์สร้างความหวาดกลัว ท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมที่กำลังขยายวงกว้างมากขึ้น
มิงยู ฮาห์ รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคฝ่ายรณรงค์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า ที่ผ่านมา วอยซ์ทีวี ทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวการชุมนุมโดยสงบที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ยุทธศาสตร์เหล่านี้เป็นความพยายามอย่างชัดเจนของทางการในการข่มขู่และคุกคามเพื่อปิดปากประชาชน เช่นเดียวกับการตั้งข้อหากับแกนนำผู้ชุมนุม
การคุกคามสื่อเป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีช่องทางการสื่อสารของทางการไทยในปัจจุบัน รวมทั้งการข่มขู่ที่จะปิดกั้นแพลตฟอร์มการส่งข้อความอย่างเทเลแกรม (Telegram) และการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์และแชร์ข้อความออนไลน์
ประชาชนทุกวัยเข้าร่วมการชุมนุม ทำให้การชุมนุมโดยสงบที่มีเยาวชนเป็นแกนนำขยายตัวมากขึ้น ทางการไทยควรเคารพและคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ รวมทั้งเสรีภาพสื่อด้วย ควรให้ประชาชนสามารถออกมาแสดงความคิดเห็นโดยสงบ ทั้งผ่านทางโซเชียลมีเดียและการชุมนุมบนท้องถนน เช่นเดียวกับการให้นักข่าวทำหน้าที่รายงานข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
"เราจึงขอเรียกร้องอีกครั้งให้ทางการไทย ปล่อยตัวผู้ชุมนุมโดยสงบที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ โดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข ทางการไทยควรยกเลิกข้อหาทั้งหมดต่อผู้ชุมนุม และในระหว่างนี้ ให้ประกันว่าผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมดสามารถเข้าถึงและติดต่อทนายความ"
"เรายังขอเรียกร้องทางการไทยให้ยกเลิกคำสั่งห้ามออกอากาศของสื่อต่างๆ ภายใต้วอยซ์ทีวี และสำนักข่าวอื่นๆ และอนุญาตให้สื่ออิสระสามารถทำงานได้อย่างเสรี โดยปราศจากการข่มขู่ คุกคาม หรือความหวาดกลัวว่าจะถูกตอบโต้"