พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาระบุว่าสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาทนั้น จะเป็นโมฆะว่า ตอนที่ตนรับผิดชอบดูแลอยู่ ก็ไม่โมฆะ เพราะมีการลงนาม ให้รอฟังการแถลงจากกองทัพเรือวันเดียวกันนี้ ในเวลา 13.30 น.
เมื่อถามว่า มีข้อมูลเปิดเผยออกมาว่ามี 'นายพล ป.' มาล็อบบี้คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ให้โหวตผ่านงบซื้อเรือดำน้ำ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามผู้สื่อข่าวพร้อมยิ้มตอบ ว่า "จะล็อบบี้ได้อย่างไร เป็นเรื่องของกรรมาธิการ"
เมื่อถามอีกว่า มีความกังวลว่า การซื้อเรือดำน้ำ จะทำให้เป็นประเด็นบานปลายเกิดการชุมนุมลุกลามมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่มีๆ"
'มาดามเดียร์' ชี้เรือดำน้ำเป็นงบประมาณผูกพันจริง วอนรัฐบาลฟังเสียงสังคม
วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 กล่าวว่า ในเรื่องของการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นเป็นงบประมาณผูกพันจริง แต่ส่วนตัวมองว่าวันนี้ปัญหาเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายงบประมาณถือเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาให้รอบคอบถี่ถ้วน ว่าจะใช้งบประมาณอย่างไรในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนและเยียวยาเศรษฐกิจของประเทศ ให้พ้นจากวิกฤตโดยเร็วที่สุด เพราะวันนี้ประชาชนจนถึงภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเอสเอ็มอีหรือธุรกิจขนาดใหญ่ต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลรับฟังเสียงสะท้อนจากสังคม และใคร่ครวญในส่วนของงบประมาณต่างๆ ซึ่งในการพิจารณางบประมาณ ขณะนี้อยู่ในช่วงที่อนุกรรมาธิการและกรรมาธิการพิจารณา ซึ่งในบ่ายวันนี้กองทัพเรือก็จะออกมาชี้แจงรายละเอียดดังกล่าว ส่วนการทำงานของกรรมาธิการและสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณารายละเอียดในงบประมาณส่วนนี้อีกเช่นเดียวกัน แต่ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องคำนึงถึงเสียงของประชาชน
ในฐานะกรรมาธิการคิดว่าควรจะต้องทบทวนงบประมาณการจัดซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ วทันยา กล่าวว่า หลังจากนี้กรรมาธิการจะต้องมีการหารือกันเพราะ กรรมาธิการคณะใหญ่มีถึง 78 คน และมีตัวแทนจากทั้งพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน กระบวนการทำงานก็ต้องฟังเสียงส่วนรวม ซึ่งในวันพุธที่ 26 ส.ค. 2563 กรรมาธิการจะพิจารณางบต่างๆที่ 8 คณะอนุกรรมาธิการได้พิจารณาแล้ว เพื่อพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งคงต้องติดตามว่า หลังการพิจารณารายละเอียดแล้ว กรรมาธิการคนอื่นๆ จะมีความเห็นต่องบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :