ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความในคดีละเมิดอำนาจศาลของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ที่ถูกผู้อำนวยการประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ ยื่นคำร้องให้มีการไต่สวนในคดีดังกล่าว จากกรณีเหตุความวุ่นวาย บริเวณด้านหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 66 โดยระบุว่า คดีนี้ นอกจากบุ้งจะถูกฟ้องแล้ว ยังมี ธนลภย์ ผลัญชัย หรือ หยก เยาวชนอายุ 15 ปี เป็นผู้ถูกฟ้องด้วย แต่ตนทราบมาว่า หยก ยังไม่ได้รับหมายศาล จึงไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ ซึ่งทางทนายก็ต้องสู้กับเรื่องนี้ว่า ไม่ได้เป็นการละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ในห้องพิจารณาคดี และไม่ได้เป็นเหตุให้กระบวนการพิจารณาคดีล่าช้า 

อย่างไรก็ตาม ศาลได้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการไต่สวนพิจารณาคดีละเมิดอำนาจศาลด้วยการไต่สวนลับหลังผู้ถูกฟ้องทั้งสองที่ไม่ได้เดินทางมาศาล ซึ่งทนายได้ยื่นคัดค้าน เนื่องจากคดีละเมิดอำนาจศาลที่ทางผู้อำนวยการประจำศาลยื่นฟ้องนั้น มีโทษจำคุกกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้ถูกฟ้อง อีกทั้งผู้ฟ้องทั้งสองนั้น คนหนึ่งมีอาการป่วยและมีใบรับรองแพทย์ ส่วนอีกคนยังไม่ได้รับหมายศาล และยังเป็นเยาวชน จึงมองว่าไม่เป็นธรรม หากจะมีการไต่สวนคดีลับหลัง 

ด้วยเหตุนี้ หลังการปรึกษา ศาลได้มีคำสั่งเลื่อนการไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล เป็นวันที่ 22 ม.ค. 2567 เวลา 9:00 น. และจะมีการอ่านคำวินิจฉัย ในวันที่ 26 ม.ค. 2567 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ศาลอ่านคำสั่งเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว บุ้ง และ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน จำเลยคดีม.112 หลังพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ร้องว่าจำเลยทำผิดเงื่อนไขประกันตัวของศาล จากการชุมนุมหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา

กฤษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวมองว่าคดีละเมิดอำนาจศาลนั้น ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งกับ หยก เพราะยังเป็นเยาวชน จึงไม่สมควรที่จะได้รับการไต่สวนพิจารณาคดีในศาลผู้ใหญ่ ตนจึงตั้งคำถามไปยังศาลยุติธรรม และเรียกร้องไปยังคณาจารย์นิติศาสตร์ เกี่ยวกับกฎหมายเด็ก ว่า กรณีที่ที่เด็กถูกดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล ศาลผู้ใหญ่สามารถสืบพยานต่อหน้าเด็กได้จริงหรือไม่ และมีอำนาจในการออกหมายเรียกเด็กหรือไม่ โดยส่วนตัวมองว่าไม่สมควร และไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ขึ้นกับการพิจารณาของศาล