วันที่ 4 มี.ค. 67 ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณี ที่สื่ออาวุโสพูดคุยแสดงความคิดเห็น ผ่านช่องยูทูป ในรายการ “สมมุติว่า”ถึงกิจกรรมการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ในชื่อ “เที่ยวใต้ สุดใจ” ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างวันที่ 27 - 29 ก.พ. ที่ผ่านมา
ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ภารกิจการลงพื้นที่จังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้ของนายเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในรอบ 10 ปีที่มีการนอนพักค้างแรม สะท้อนเจตจำนงชัดเจนว่า รัฐบาลจะนำความเสมอภาคความเท่าเทียม และโอกาสมาสู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นเพียงเรื่องของความมั่นคงซึ่งมีความซับซ้อน จนอาจถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยน้อย เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ในหลายมิติ นอกเหนือจากมิติด้านความมั่นคง
ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เสนอหนทางแก้ปัญหา ด้วยโอกาสและเศรษฐกิจ รัฐบาลชวนมองมุมใหม่ให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความปลอดภัย มีการท่องเที่ยว และการลงทุน เจตนารมณ์นี้จึงสะท้อนผ่านความใส่ใจของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเค้นของดีและศักยภาพชายแดนใต้ออกมา เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ไม่ใช่แก้ด้วยกรอบความมั่นคงที่จะได้ผลลัพธ์แบบเดิม รัฐบาลจะไม่พายเรือในอ่าง แต่จะพาพี่น้อง 3 จังหวัดออกจากวังวนเดิม เปิดประตูสู่การค้าชายแดน ไปจนถึงการลงทุนในปริมาณและโอกาสที่มากกว่าเดิม โดยไม่ละเลยมิติด้านความมั่นคง ซึ่งจะทำให้คนมีรายได้ มีกินมีใช้ เป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ความขัดแย้งในพื้นที่ลดลง
นอกจากนี้ ลิณธิภรณ์ ยังยืนยันว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ไม่เคยใช้ และไม่มีกฎหมายใดสักฉบับเดียว ที่จะควบคุมหรือลิดรอนเสรีภาพสื่อ และยืนยันเคารพในหลักการประชาธิปไตย
“วอนสื่ออาวุโส อย่าด้อยค่ารัฐบาล รัฐบาลนี้เคารพในสิทธิและเสรีภาพของสื่อ เพราะสื่อคือตัวชี้วัดและสะท้อนผลการทำงานของรัฐบาล แต่การแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อเพียงด้านเดียว อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสังคมในภาพรวมได้ อยากขอวิงวอนให้สื่อช่วยนำเสนอมุมมองการทำงานของรัฐบาลทั้งในด้านบวกและด้านลบให้ครบทุกด้าน และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองว่า รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประชาชนหรือไม่” ลิณธิภรณ์ กล่าว